Page 206 - kpi20440
P. 206
KPI Congress 20th
206
2018
Thai Democracy on the Move
อุปสรรคที่ขัดขวำง : ด้ำนกำรเมืองและรำชกำร
อุปสรรคที่ขัดขวางท�าให้การพัฒนาที่ยั่งยืนไม่บรรลุเป้าหมาย คือ “อุปสรรคด้านการเมืองและราชการ”
และ “อุปสรรคด้านความคิดอ่านทางวิชาการ” ทั้งนี้ อุปสรรคด้านการเมืองและราชการ มีหลากหลายประเด็น
ประการแรก แรงบีบคั้นจากปัญหาเฉพาะหน้าและการเน้นเป้าหมายระยะสั้น เช่น ต้องท�าเป็นตัวเลขการพัฒนา
เศรษฐกิจ ซึ่งอาจจะได้ผลทันใจแต่กลับสร้างปัญหาในระยะยาว ประการที่สอง ประเด็นท�าเพื่อการมุ่งตอบ
สนองสื่อเป็นหลัก เพียงต้องการให้เป็นข่าว เพราะเรื่องสาระในระยะยาวขายไม่ได้ ซึ่งสื่อในที่นี้รวมถึงโซเซียล
มีเดียด้วย ประเด็นที่สาม ด�าเนินการตามแบบราชการคือบริหารจัดการตามสายงาน ท�างานแบบแนว silo
มากเกินไปเน้น SDGs เป็นแท่งๆ มุ่งตอบสนองตัวชี้วัดที่นับได้และเฉพาะส่วน ไม่สนใจมิติที่เชื่อมโยงระหว่างกัน
ข้อที่น่าสังเกตได้แก่ ตัวชี้วัดในการท�างานราชการ (KPI) นั้นมีความสนใจสร้างเงื่อนไขการร่วมมือและท�างาน
ข้ามฝ่าย-ข้ามหน่วยงาน (collaboration) น้อยหรือไม่ให้ความส�าคัญเลย ถัดมาประเด็นที่สี่ ระบบบริหาร
แบบบูรณาการแนวตั้งหรือคือการท�างานแบบอาศัยกลไกราชการเดิมๆเป็นตัวตั้ง top down และมีบรรยากาศ
การท�างานที่ค่อนข้างเกร็งและกลัว ซึ่งไม่ส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อปฏิรูปตนเองของทุกฝ่าย โดยเฉพาะระบบราชการ
โดยรวม รวมทั้งประเด็นเรื่องความไม่สอดคล้องทางนโยบายของรัฐบาลเอง
อุปสรรคทางด้านญาณวิทยา (และความคับแคบของความรู้เฉพาะสาขาวิชา)
อุปสรรคด้านญาณวิทยาและความรู้ตามสาขาวิชา
2
1. วิศวกรและนักวิทยาศาสตร์ขาดความเข้าใจ(เพียงพอ) ต่อโลกสังคมมนุษย์และโลกวัฒนธรรม
2. นักสังคมศาสตร์ และนักมนุษยศาสตร์ ขาดความเข้าใจต่อโลกทางชีวภาพและโลกทางกายภาพ
3. การบูรณาการระบบที่หลากหลายประสบกับอุปสรรคอันฉกาจฉกรรจ์ เพราะตกอยู่ใต้อิทธิพล
ของการคิดแบบย่อส่วน ( reductionism ) หรือแนวคิดลดทอนความซับซ้อน
4. ระบบความรู้ที่ครอบง�าการตัดสินนโยบายมีลักษณะเน้นแต่ภาพใหญ่เหมาะสม top-down
และคับแคบ
ในส่วนอุปสรรคด้านความคิดความอ่านทางวิชาการนั้น หากเรามองสะท้อนจากโจทย์โครงการขนาดใหญ่
พัฒนาการก่อสร้าง รวมทั้งการรีบเร่งผลักดันระยะหลัง เช่น โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน อ.เทพา จ.สงขลา
เอกสารประกอบการประชุมกลุ่มย่อยที่ 5 หนึ่งอุปสรรคด้านญาณวิทยาและความรู้ตามสาขาวิชาที่ขาดการบูรณาการต่อบริบทของพื้นที่สังคมที่เป็นจริง
และ จ.กระบี่ พบว่าวิศวกรหรือนักวิทยาศาสตร์ขาดความรู้ความเข้าใจที่ เพียงพอต่อโลกสังคมและโลกวัฒนธรรม
ขณะที่นักสังคมศาสตร์และนักมนุษยศาสตร์ก็ขาดความเข้าใจต่อโลกทางชีวภาพและโลกทางกายภาพ พูดอีกนัย
2
ที่มา Benno Werlen, Global Sustainability : Cultural Perspectives and Challenges for Transdisciplinary
Integrated Research ( preface ) ( 2015 )