Page 48 - kpi19842
P. 48

“กระบวนการเป็นผู้น าแบบทางการและการมีส่วนร่วมทางการเมืองท้องถิ่นของกลุ่มชาติพันธุ์ชาวไทยภูเขา กรณีศึกษากลุ่มชาติพันธุ์
                       ชาวไทยภูเขา อ าเภอคลองลาน จังหวัดก าแพงเพชร”  โดย  โอกามา จ่าแกะ  ผศ.ณัฏฐวุฒิ  ทรัพย์อุปถัมภ์  ชลกานดาร์  นาคทิม





                             ประการที่สาม  พฤติกรรมการปรับตัวตามบทบาทหน้าที่ (Role Function) เป็นการ
                  ตอบสนองความต้องการเพื่อคงไว้ซึ่งความมั่นคงทางสังคมในสถานการณ์ใดก็ตามที่บุคคลไม่สามารถปฏิบัติ

                  หน้าที่ตามบทบาทของตนเองได้ บุคคลต้องมีการปรับตัวเพื่อแสดงบทบาทของตนให้เป็นไปตามปกติ

                  แต่จะส าเร็จหรือไม่ขึ้นอยู่กับการปรับตัวของบุคคลนั้น

                             ประการที่สี่  พฤติกรรมการปรับตัวตามความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับผู้อื่น (Interdependence

                  Relations) เป็นการตอบสนองความต้องการพื้นฐานของบุคคลเพื่อคงไว้ซึ่งความมั่นคงทางสังคม ดังนั้น
                  ความพอเหมาะระหว่างการพึ่งตนเอง การพึ่งผู้อื่น และการให้ผู้อื่นพึ่งพาตนเอง มีส่วนช่วยให้เกิดความ

                  มั่นคงทั้งทางด้านจิตใจและสังคม

                         Rogers (1972)  (อ้างถึงในจุมจินต์  สลัดทุกข์, 2543) ผู้น าทฤษฎีว่าด้วยตน และทฤษฎีการให้

                  ค าปรึกษาแบบผู้รับค าปรึกษาเป็นศูนย์กลาง  เขาได้พิจารณาการปรับตัวในแง่ของการปรับตัวภายในตนเอง
                  โดยเขาเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนเป็นศูนย์กลางของประสบการณ์ต่างๆ รอบตัวซึ่งเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

                  ส่วนหนึ่งของประสบการณ์ที่บุคคลได้รับรู้และมีการปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น  รวมทั้งการประเมินผลจากการ
                  มีปฏิสัมพันธ์นั้นก่อให้เกิดตัวเรา (Self) หรือ “โครงสร้างของตน” ขึ้นมาเป็นการรับรู้เกี่ยวกับตนในด้าน

                  ต่างๆ เช่น บุคลิกลักษณะ ความสามารถของตน บทบาทต่างๆ ของตนในการเกี่ยวข้องกับผู้อื่นและ

                  สิ่งแวดล้อม ทัศนคติและค่านิยมต่างๆ ของตัวเรา ประสบการณ์ที่แต่ละบุคคลได้รับจึงมีส่วนส าคัญในการ
                  ก าหนดบุคลิกภาพของบุคคลให้แตกต่างกัน  โดยที่แต่ละคนจะเข้าใจและรู้จักโลกส่วนตัวของเขาได้ดีที่สุด

                  บุคคลที่ปรับตัวได้ คือ บุคคลที่เป็นตัวของตัวเอง  เข้าใจและยอมรับตนเองและผู้อื่น  รวมทั้งสามารถรับรู้

                  ประสบการณ์ต่างๆ ตามความเป็นจริง น าประสบการณ์นั้นมาจัดให้สอดคล้องกับโครงสร้างหรือบุคลิก
                  ลักษณะของตนอย่างไม่ขัดแย้งหรือบิดเบือน จะมีการรับรู้และความคิดเกี่ยวกับตนเองในทางบวก

                  ส่วนบุคคลที่ปรับตัวไม่ได้  จะมีความขัดแย้งระหว่างความคิดเกี่ยวกับตนกับประสบการณ์ที่เกิดขึ้นมาใหม่
                  อย่างมากท าให้เกิดความตึงเครียด วิตกกังวล สับสน ไม่แน่ใจ สูญเสียความเป็นตัวของตัวเอง และมีความ

                  คิดเห็นเกี่ยวกับตนจะเป็นไปในทางลบ

                         Williamson (1950) (อ้างถึงใน นิภา  คาภาทู, 2547) น าทฤษฎีการให้ค าปรึกษาแบบน าทาง

                  มีความเชื่อว่า มนุษย์มีสติปัญญาและเหตุผล  ตลอดจนมีแนวโน้มที่จะพัฒนาตนเองได้ แต่การที่จะพัฒนา
                  ได้นั้นต้องอาศัยความช่วยเหลือจากผู้อื่นโดยเฉพาะสังคมที่แวดล้อมเขาอยู่ การที่บุคคลมีปฏิสัมพันธ์กับ

                  บุคคลอื่นในสังคมจะท าให้เขามองเห็นและรู้จักตนเองในด้านต่างๆ เช่น ความรู้ ความสามารถ ความสนใจ

                  ค่านิยมและทัศนคติ ความต้องการและเป้าหมายที่เขาเลือก  ในขณะเดียวกันก็ได้เรียนรู้จากผู้อื่น ได้รับรู้
                  ประสบการณ์สังคมในด้านต่างๆ  เช่น  ค่านิยมทางสังคม  มาตรฐานและข้อจ ากัดทางสังคม  ปัญหาต่างๆ

                  ในสังคม  ตลอดจนวิธีการที่จะจัดการแก้ไขทั้งทางตรงและทางอ้อม จากความเชื่อดังกล่าว วิลเลียม

                  จึงสรุปว่า บุคคลสามารถปรับตัวได้ถ้ามีความรู้ความเข้าใจในตนเอง รวมทั้งการรู้จักและการเข้าใจสังคม
                  เพราะที่ท าให้เขาสามารถตัดสินใจเลือกวิธีการด าเนินชีวิตหรือแก้ไขปัญหาได้อย่างมีสติและมีเหตุผล






                                                            47
   43   44   45   46   47   48   49   50   51   52   53