Page 271 - kpi17968
P. 271
260
ผู้ตอบแบบสอบถามร้อยละ 53 เชื่อว่าการใช้กำลังเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง แม้แต่
53
การรัฐประหาร พ.ศ.2549 และ พ.ศ.2557 ก็มีผู้ยกย่องในแง่ที่ไม่มีการเสีย
เลือดเนื้อ การที่คนทั้งหลายในสังคมไทยให้คุณค่าแก่ “สันติวิธี” มากขึ้นเช่นนี้
นับว่าเป็นวัฒนธรรมทางการเมืองใหม่ที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะจะช่วยเกื้อหนุนให้
เกิดความเคารพในสิทธิและเสรีภาพของประชาชนอย่างเสมอภาคตามหลัก
นิติธรรมมากขึ้น
นอกจากนี้ความหมายของ “ชาติ” ในความรู้สึกนึกคิดของคนไทยส่วนใหญ่
ก็เปลี่ยนแปลงไปมาก กล่าวคือ แต่เดิมนับตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา
“ชาติไทย” หมายถึงชาติของผู้ที่มี “เชื้อชาติไทย” หรือชาติพันธุ์ไทย และมี
“ความเป็นไทยทางจิตใจ” อันเกิดจากการยึดมั่นใน “ความเป็นไทย” ด้านต่างๆ
เช่น การนับถือพุทธศาสนา การใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้อง การรู้สึกซาบซึ้งใน
ศิลปะไทยที่เต็มไปด้วยความประณีตอ่อนช้อย การมีมารยาทไทยคือ “รู้ที่ต่ำที่สูง”
การให้ความชื่นชมและเชื่อมั่นใน “การปกครองแบบไทยคือแบบพ่อปกครองลูก”
และการยอมรับการแบ่งชั้นทางสังคมโดยเห็นว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้องดีงาม แต่ใน
สังคมไทยปัจจุบัน ด้วยอิทธิพลของกระแสโลกาภิวัตน์และรายได้จากการท่องเที่ยว
ที่ส่วนหนึ่งมาจากการใช้ความหลากหลายทางชาติพันธุ์และวัฒนธรรมเป็น
“จุดขาย” นอกจากนี้ยังมีการส่งเสริมให้คนชาติพันธุ์ต่างๆ ใช้ “ทุนวัฒนธรรม”
ในการผลิตสินค้า ทำให้ความแตกต่างหลากหลายทางชาติพันธุ์และวัฒนธรรมใน
“ชาติไทย” ได้รับการยอมรับมากขึ้น เห็นได้ชัดจากภาพทางโทรทัศน์ที่คนหลากหลาย
ชาติพันธุ์ในชุดแต่งกายตามประเพณีร่วมกันยืนตรงเคารพธงไตรรงค์ ซึ่งสะท้อนว่า
“ความเป็นไทย” หรือวัฒนธรรมแห่งชาติได้รับการให้ความหมายใหม่ในเชิงที่เป็น
“พหุวัฒนธรรม” มิใช่การเน้น “ความเป็นไทยแท้” ดังในอดีตที่ผ่านมา นับเป็น
ความเปลี่ยนแปลงสำคัญอีกประการหนึ่งที่ทำให้วัฒนธรรมทางการเมืองของไทย
53 เมื่อให้ประเมินว่าฝ่ายไหนควรรับผิดชอบต่อการเสียชีวิตที่เกิดขึ้นระหว่างการชุมนุม
ความเห็นก็ใกล้เคียงกันมาก กล่าวคือ ร้อยละ 40 โทษฝ่ายรัฐบาล ร้อยละ 37 โทษฝ่ายผู้ชุมนุม
ร้อยละ 4 โทษทั้งสองฝ่าย (อ้างใน ผลสำรวจชี้คนส่วนใหญ่ไม่ใส่ “เสื้อสี” แต่ “เหลือง-แดง”
อาจถึง 10 ล้านคน อึ้ง ประชาชนไม่เชื่อใจ “สื่อ”, (28 มีนาคม 2554), (อ้างแล้ว) สะท้อน
ให้เห็นว่าแม้แต่ในสถานการณ์ที่มีความขัดแย้งทางการเมืองที่รุนแรง คนส่วนใหญ่ก็ต้องการให้
แก้ปัญหาด้วยสันติวิธี
การประชุมกลุมยอยที่ 2