Page 226 - kpi17968
P. 226
215
“ด้วยเจ้าพระยาธรรมาธิกรณาธิบดี ศรีสุวิรมหามัตวงศ ราชพงศ-
นิกรานุรักษ มหาสวามิภักดิบรมราโชปการาภิรมย์ สระโพดมกิจวิจารณ-
มหามณเฑียรบาลบดินทร ราชนิเวศนินทรามาตย์ อันเตปุริกนาถ
เสนาบดี อภัยพิริยปรากรมพาหุ เป็นประธานาธิบดี ในกรมวังรับ
พระบรมราชโองการมานพระบัณฑูรสุรสิงหนาท ดำรัสเหนือเกล้าฯ สั่งว่า
ให้ประกาศแก่พระราชวงศานุวงศ์ ที่ตั้งกรมแล้วแลยังไม่ได้ตั้งกรม
ข้าราชการเจ้าพระยาแลพระยา พระหลวงในพระบรมมหาราชวัง แลใน
พระบวรราชวังจงทั่วกันว่า พระมหาราชครูปโรหิตาจารย์ (ทองดี)
พระมหาราชครูมหิธร (อู่) ถึงแก่กรรมแล้ว ที่พระราชครูทั้ง 2 จะต้องตั้ง
ขึ้นใหม่ เมื่อว่าจะทรงปรึกษากับพระราชวงศานุวงศ์องค์หนึ่ง สององค์
แลท่านเสนาบดีสามคนสี่คน เลือกสรรข้าราชการผู้ใดผู้หนึ่งเป็นก็จะได้
แลทรงพระราชดำริเห็นว่า ที่พระมหาราชครูปโรหิตาจารย์ พระมหาราช
ครูมหิธร พระครูพิเชต พระครูพิราม 4 ตำแหน่งนี้ เป็นผู้พิพากษาตัดสิน
ผิดแลชอบ สุขทุกข์ความของท่านทั้งหลายทั่วกัน ต่อออกไปจนราษฎร
ซึ่งเป็นบ่าวไพร่ในสังกัด แล้วได้ทรงทราบว่าในประเทศอื่นๆ เมื่อผู้ครอง
แผ่นดินจะตั้งผู้สำหรับตัดสินความ ก็ย่อมให้คนทั้งปวงเลือกแล้วจดหมาย
ชื่อเข้ามาส่งต่อเจ้าพนักงาน เจ้าพนักงานสอบดู ถ้ามีชอบใจท่านผู้ใดมาก
ก็ให้ผู้นั้นเป็นผู้ตัดสินคดีของราษฎร ครั้งนี้จะทรงทะนุบำรุงบ้านเมืองให้
สมบูรณ์อยู่เย็นเป็นสุขทั่วกัน โดยอย่างธรรมเนียมแก้ไขใหม่ให้ดีขึ้นกว่า
เก่า จึงโปรดเกล้าฯ ขอให้พระราชวงศานุวงศ์ที่ตั้งกรมแล้ว แลยังไม่ได้ตั้ง
กรม ข้าราชการเจ้าพระยา แลพระยาพระหลวงในพระบรมมหาราชวัง
แลพระบวรราชวัง คิดตรึงตรองเลือกดูที่ชอบใจ อย่าให้ปรึกษากันว่า
จะชอบใจให้ผู้ใดเป็นที่พระมหาราชครูปโรหิตาจารย์ พระมหาราชครู
มหิธร ก็ให้จดหมายลงว่า ข้าพระพุทธเจ้าคนนั้นเห็นด้วยเกล้าด้วย
กระหม่อม ว่าคนชื่อนั้นสมควรที่จะเป็นพระมหาราชครูปโรหิตาจารย์ คน
ชื่อนั้นสมควรที่จะเป็นพระมหาราชครูมหิธร มิได้บังคับว่าให้เลือกเอาแต่
ข้าราชการในพระบรมมหาราชวัง แลพระบวรราชวัง ถึงข้าเจ้าบ่าว
ข้าราชการ ถ้าเห็นว่ามีสติปัญญาควรจะเป็นที่ตัดสินความโดยสัตย์โดย
ธรรม ตามพระราชกำหนดกฎหมายให้สิ้นสงสัยชอบใจแก่คนทั้งปวงได้
การประชุมกลุมยอยที่ 2