Page 689 - kpi17073
P. 689
688 การประชุมวิชาการ
สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 16
ไปละเมิดสาธารณะ แล้วจะทำอย่างไร เพื่อเป็นการถ่วงดุล ให้เกิดดุลยภาพกัน เราควรที่จะมี
กฎหมายหรือไม่เช่น กฎหมายในเรื่องของการชุมนุมในที่สาธารณะ บ้านเรายังไม่มี แต่ก็พยายาม
ผลักดันให้เกิดขึ้น ก่อนที่จะไปชุมนุมต้องแจ้งก่อน ให้หน่วยงานรัฐได้รู้ ไม่ต้องขออนุญาต
แต่อย่างน้อยขอให้แจ้ง ต้องมีการห้ามละเมิดสิทธิของคนอื่นและสาธารณะ ห้ามไปปิดถนน หรือ
สถานที่สำคัญ นี่คือเรื่องของการถ่วงดุลอำนาจระหว่างสถาบันการเมืองกับการเมืองภาคพลเมือง
นอกจากนี้แล้วปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้นอีกด้านหนึ่ง คือ สถาบันการเมือง กับการเมือง
ภาคพลเมืองห่างจากกัน ก็เลยเกิดความไม่สมดุลกัน สิ่งที่เกิดความไม่สมดุลกัน ข้อที่หนึ่ง คือ
เราบอกว่าสถาบันการเมืองวันนี้ เป็นระบบทุนนิยม คนที่เป็นนายทุนก็จะคุมระบบการเมือง
จริงๆ พรรคการเมือง คือ สถาบันการเมืองที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้ประชาธิปไตยยั่งยืนและ
มีประสิทธิภาพ แต่ปรากฏว่าพรรคการเมืองติดกับดัก ทำให้วันนี้ประชาธิปไตยเราเป็นเช่นนี้
เพราะเรามีนายทุนที่คุมพรรคอยู่ มีแต่การแย่งชิงอำนาจกัน และสุดท้ายก็คือต้องชนะอย่างเดียว
เมื่อชนะอย่างเดียว อำนาจก็มากขึ้น สิ่งที่ตามมาคือ มีความเหลื่อมล้ำกันมากขึ้น ช่องว่างมากขึ้น
สุดท้ายก็คือไม่มีจิตสำนึกในการที่จะเสียสละ ในการที่จะเป็นนักการเมืองหรือสถาบันการเมืองที่ดี
ที่มาบริหารปกครองประเทศ
ดุลยภาพที่เหมาะสมระหว่างสถาบันการเมืองกับการเมืองภาคพลเมืองที่เราอยากเห็นมันคือ
อะไร ประการแรก ต้องจัดความสัมพันธ์ทางอำนาจทั้งทางการและไม่เป็นทางการ ต้องลดอำนาจ
รัฐลงมา และเพิ่มอำนาจประชาชน สิ่งหนึ่งที่ต้องทำก็คือ เราต้องเพิ่มศักยภาพของภาคพลเมืองให้
สูงขึ้น วันนี้มันเป็นแนวดิ่ง เราจะทำอย่างไรให้ยกระดับขึ้นมาได้ เพราะฉะนั้นแนวทางในการ
ดำเนินการก็มีสามเรื่องใหญ่ เรื่องแรก เราต้องพัฒนาประชาชนสู่ความเป็นพลเมือง วันนี้เรามี
ประชาชนมากกว่าพลเมือง เรื่องที่สอง คือ เราจะต้องสร้างดุลในเรื่องการมีส่วนร่วมอย่างแท้จริงให้
เกิดขึ้น ไม่ใช่แค่ร่วมๆ ทำไปอย่างนั้นเอง เรื่องสุดท้าย ในเรื่องของกระบวนการทางกฎหมาย
อาจจะต้องนำกระบวนการทางกฎหมายเข้ามาเสริม เพื่อทำให้ดุลยภาพของทั้งสองอย่างนี้มันไป
ด้วยกันได้
แล้วเราจะยกระดับประชาชนไปสู่ความเป็นพลเมืองได้อย่างไร สิ่งที่เราต้องทำก็คือ ต้องยก
ระดับเขาขึ้นมา เปิดโอกาสให้เขาได้มีการพัฒนาสูง พลเมืองในที่นี้ก็คือ คนที่เป็นพลังของบ้าน
ของเมือง มารวมตัวกันในเรื่องดีๆ บางคนไปช้ากว่า มีประสิทธิภาพน้อยว่า ก็ไม่เป็นไร เราก็ดึง
กันขึ้นไป ต้องให้ความรู้และทักษะ สร้างเจตคติ เขาต้องรู้ว่าตนเองมีบทบาทหน้าที่อะไร และ
สิ่งสำคัญก็คือ คำว่า Civic Education คือการศึกษาเรื่องความเป็นพลเมือง วันนี้สังคมไทยสนใจ
สรุปสาระสำคัญการนำเสนอผลการประชุมกลุ่มย่อย
น้อยมาก หรือไม่ให้ความสนใจเลย เพราะฉะนั้นเรื่อง Civic Education ต้องเน้นในทุกระดับ ต้อง
สอนในโรงเรียนด้วย ต้องเน้นมาตั้งแต่ในครอบครัวและต้องทำอย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมกิจกรรมที่ให้
มีการลงมือทำจริงๆ ต่อมา คือ ต้องส่งเสริมกระบวนการมีส่วนร่วมและเปิดพื้นที่การมีส่วนร่วม
อย่างแท้จริง ไม่ใช่เพียงแค่การสร้างความชอบธรรม ต้องทำให้เกิดกระบวนการคิด เกิดการ
วางแผน มีการปรับปรุง และติดตามประเมินผลด้วย อีกเรื่องหนึ่งก็คือ อาจจะผลักดันกฎหมายที่
มันเกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการเมืองภาคพลเมือง เรื่องของสิ่งแวดล้อม เรื่องของวิถีชุมชน และ
รวมถึงเรื่องการออกแบบสถาบันการเมืองใหม่ การเข้าสู่อำนาจของนักการเมืองใหม่ ตรงนี้คือเรื่อง
ของกระบวนการทางด้านกฎหมาย