Page 692 - kpi17073
P. 692
การประชุมวิชาการ
สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 16 691
เป็นสิ่งที่งานวิชาการควรจะเข้ามาสนับสนุนในเรื่องของการออกแบบติดตามในเรื่องของการ
กระจายอำนาจ ประเด็นต่อมา คือ มีเรื่องของการกระจายอำนาจในสังคมไทยที่มักเป็นประเด็น
แบบขั้วตรงกันข้าม เมื่อสมัยหนึ่ง ก่อนที่เราจะมีการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับ 2540 เราก็บอกว่า
จะต้องกระจายอำนาจ พอเรามีการกระจายอำนาจ เรามีปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น วันนี้สังคม
บอกว่า ต้องกลับไปรวมศูนย์อำนาจ ฉะนั้นข้อถกเถียงในประเทศไทย อาจจะต้องอย่าพยายาม
มองในขั้วตรงกันข้ามกัน เราก็ต้องยอมรับว่า ประเทศไทยเองมีการเปลี่ยนแปลงทางสังคม
เศรษฐกิจ การเมืองมาอย่างยาวนาน เราอยู่ในความคิดของระบบรัฐสมัยใหม่ ฉะนั้นการคิด
เกี่ยวกับเรื่องของการปฏิรูปการกระจายอำนาจและการออกแบบการปกครองท้องถิ่น ก็ต้องคำนึง
ถึงความเป็นรัฐสมัยใหม่ด้วย ในมิตินี้ ข้อเสนอคือเราไม่จำเป็นต้องมองให้แบ่งเป็นสองขั้ว
การออกแบบในนานาชาติ หรือประเทศต่างๆ เรื่องของการรวมศูนย์อำนาจกับเรื่องของการ
กระจายอำนาจสามารถอยู่ร่วมกันได้ นอกจากนั้น หัวใจสำคัญอยู่ที่เรื่องของการจัดสัมพันธภาพ
ระหว่างองค์กรรวมศูนย์กับการกระจายอำนาจต่างหาก แล้วต้องมีความชัดเจนว่า เราจะรวม
ศูนย์อำนาจกันเรื่องอะไร และเรื่องอะไรประเทศไทยจำเป็นจะต้องมีการกระจายอำนาจ
ส่วนนักวิชาการท่านสุดท้าย จะมองในเรื่องของผลเชิงประจักษ์ว่า หากประเทศไทยให้ความ
สำคัญกับการเสริมสร้างประชาธิปไตยอย่างแท้จริงแล้ว คงไม่ใช่เรื่องของการเสริมสร้างสถาบัน
แต่เป็นเรื่องของการเสริมสร้างวิถีชีวิตประชาธิปไตย มีนักวิชาการกล่าวว่า ถ้าการเมืองระดับชาติ
บอกกันว่า การเป็นประชาธิปไตย คือไปคูหาเลือกตั้ง 3 วินาที แต่การเมืองท้องถิ่นนั้นเป็น
ประชาธิปไตยอย่างต่อเนื่อง แล้วข้อมูลเชิงประจักษ์ที่ผ่านมาในช่วงระยะเวลาสิบกว่าปีที่เรา
ออกแบบการกระจายอำนาจ มีกลไกการเลือกตั้ง มีการถอดถอนนักการเมืองท้องถิ่น มีการเปิด
โอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม สิ่งนี้พิสูจน์ว่าประชาชนสามารถที่จะเลือกผู้แทนของตนเองได้
เพราะรู้ว่าผู้แทนเหล่านั้น จะเลือกไปเพื่อทำอะไรในระดับท้องถิ่น ดังนั้นคนไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง
ในระดับท้องถิ่นประมาณเกือบ 80% ซึ่งมากกว่าการเมืองในระดับชาติ ประชาชนสามารถจะไป
ขอถอดถอนนักการเมืองท้องถิ่น ซึ่งมีผลถอดถอนได้จริงแล้วโดยอำนาจของประชาชน ดังนั้น
เราก็มักจะพูดกันว่าสิ่งที่นักการเมืองกลัวมากที่สุด คือ กลัวเสียงของประชาชน นอกจากนั้น
ประชาชนก็จะถูกให้การเรียนรู้ เสริมสร้างความเป็นพลเมืองด้วยกลไกของการกระจายอำนาจและ
การปกครองส่วนท้องถิ่น ข้อเสนอก็จะออกมาในมิติของพื้นที่ที่มีโอกาสได้ปกครองตนเอง
ได้จัดการปัญหาของตัวเองอย่างชัดเจน แล้วก็มองการกระจายอำนาจไม่ใช่ยาเม็ดเดียวที่จะ
แก้ปัญหาทุกอย่าง เป็นเรื่องที่ต้องปรับวิธีคิด เป็นเรื่องที่ต้องผ่านกระบวนการเรียนรู้
ดังนั้น คงจะเป็นข้อสรุปว่า ประการแรก การออกแบบระบบบริหารในประเทศไทยที่ผ่านมา
นั้น นักวิชาการได้ชี้ให้เห็นว่า ประเทศไทยรวมศูนย์ก็เป็นปัญหา กระจายอำนาจก็ยังไม่ดี ดังนั้น
เวลาเราจะพูดถึงการกระจายอำนาจ ต้องกลับมาดูว่า เรามีระบบรวมศูนย์ในเรื่องอะไร ที่ผ่านมา
รวมศูนย์ผิดที่ผิดทาง รวมศูนย์ในเรื่องที่ไม่จำเป็นต้องรวมศูนย์ แต่ในขณะในเรื่องที่ต้องรวม
ไม่รวมศูนย์ ยกตัวอย่างเช่น ยุทธศาสตร์ของประเทศไทย เราไม่เคยรวมศูนย์ได้ชัดเจนเลย
ประการที่สองคือ เรายังเห็นความจำเป็นที่จะต้องขับเคลื่อนเรื่องกระจายอำนาจต่อไป เพราะว่า สรุปสาระสำคัญการนำเสนอผลการประชุมกลุ่มย่อย
ผลงานเชิงประจักษ์ที่ผ่านมาในช่วงสองทศวรรษมีความชัดเจนว่า การกระจายอำนาจเข้าไป