Page 373 - kpi17073
P. 373
372 การประชุมวิชาการ
สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 16
จากความล่าช้าในกระบวนการยุติธรรมเพื่อพิสูจน์ความผิดกรณีใช้อำนาจโดยมิชอบของ
เจ้าหน้าที่ของรัฐ จึงมีการพัฒนาใช้มาตรฐานจริยธรรมและประมวลจริยธรรม (Code of
Conducts) ที่มีรายละเอียดในเรื่องความประพฤติที่ทำได้และทำไม่ได้ (Do & Don’t) มาใช้ใน
การควบคุมคนในสังคม โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ได้รับมอบอำนาจรัฐเพื่อประโยชน์สุขของ
ประชาชน ซึ่งหลายประเทศใช้แล้วได้ผลทำให้เจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีความละอายชั่วกลัวบาปหรือ
“หิริ โอตัปปะ” แสดงความรับผิดชอบลาออกจากตำแหน่งเจ้าหน้าที่ของรัฐ
นอกจากนั้น ในหลักธรรมาภิบาลได้กำหนดหลักปฏิบัติประการหนึ่ง คือ Accountability
หรือความสำนึกในการกระทำ โดยแนะนำว่า เมื่อได้ตัดสินใจกระทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดไปแล้วเกิดความ
ผิดพลาดหรือเสียหายต่อส่วนรวม ควรแสดงจิตวิญญาณของความรับผิดชอบลาออกจากตำแหน่ง
ที่ใช้อำนาจที่ผิดพลาดนั้นทันที ซึ่งปรากฏการณ์นี้จะเห็นได้บ่อยครั้งในวงการเมืองของประเทศที่ได้
รับการพัฒนาประชาธิปไตยแล้ว
อย่างไรก็ดี เราไม่สามารถทำให้คนทุกคนเป็นมนุษย์ได้ ถึงแม้ว่าสังคมจะวางระบบการ
ป้องกันมิให้คนเหล่านี้เข้ามาสู่ตำแหน่งเจ้าหน้าที่ของรัฐก็ตาม อาจมีบางคนหลุดรอดมาใช้อำนาจ
รัฐโดยมิชอบจนได้ และใช้อำนาจรัฐเพื่อหาช่องโหว่ของกฎหมายแสวงหาประโยชน์ให้กับตนเอง
และพวกพ้อง ซึ่งเรื่องนี้ Plato นักปราชญ์ทางรัฐศาสตร์ได้กล่าวว่า “Good people don’t need
laws to tell them to act responsibly… and bad people will find a way around the
laws.” หรือ “คนดีไม่จำเป็นต้องใช้กฎหมายบอกเขาว่าเป็นการกระทำโดยรับผิดชอบ และคนไม่ดี
มักจะพยายามหาหนทางที่จะเลี่ยงกฎหมาย”
อดีตประธานาธิบดี Lee Khan Yew แห่งสิงคโปร์ ได้ให้ข้อคิดว่า “…The strongest
deterrent (against corruption) is the public opinion which censures and condemns
corrupt people ; in the words, in attitudes which make corruption so unacceptable
that the stigma of corruption cannot be washed away by serving a prison sentence…”
ซึ่งอาจสรุปความได้ว่า “พลังสำคัญที่จะหยุดยั้งคนที่จะคอร์รัปชั่นได้ผลที่สุด คือ ทัศนคติของสังคม
ที่จะร่วมกันประณามและไม่ยอมรับคนโกงใดๆ”
วรรคทองนี้ นำมาซึ่งแนวคิด Social Sanction หรือการตั้งข้อรังเกียจจากสังคม
ต่อบุคคลที่ทุจริตคอร์รัปชั่น ด้วยการปฏิเสธการมีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลนั้น หรือขับออกจากสังคม
นั้นเลย
การประชุมกลุ่มย่อยที่ 4