Page 130 - kpi17073
P. 130
ศาลรัฐธรรมนูญในฐานะผู้คุ้มครองรัฐธรรมนูญ
กับดุลยภาพทางการเมือง
กล้า สมุทวณิช*
ในช่วงวิกฤตทางการเมืองที่กินเวลายาวนานเกือบสิบปี มาจนถึงภาวะ
ปัจจุบันที่คล้ายเป็นการพักชั่วคราวอยู่เนื่องจากผลของการรัฐประหารควบคุม
อำนาจการปกครองโดยคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ อาจกล่าวได้ว่า
องค์กรที่ถูกกล่าวถึง วิพากษ์วิจารณ์ และเป็นเหมือน “ตัวละคร” สำคัญที่เข้ามา
มีบทบาทพลิกผันสถานการณ์และชะตากรรมทางการเมืองคือ “ศาลรัฐธรรมนูญ”
โดยอาจกล่าวได้ว่า คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญเป็นที่มาของจุดพลิกผัน
ทางการเมืองครั้งสำคัญมาตั้งแต่วิกฤตการณ์ทางการเมืองเริ่มต้นขึ้นในปี พ.ศ.
2548 กล่าวโดยสรุป ผลของคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ทำให้นายกรัฐมนตรีพ้น
ตำแหน่งไปโดยทางตรงและทางอ้อมสามคน พรรคการเมืองใหญ่ที่ชนะการเลือก
ตั้งทั่วไปถูกยุบไปสองพรรค (ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่มาจากขั้วอำนาจเดียวกัน)
ทำให้การเลือกตั้งทั่วไปเป็นโมฆะเสียเปล่าโดยทางตรงและทางอ้อมสองครั้ง
รวมถึงการพิจารณาความชอบด้วยการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ และวินิจฉัย
ว่าการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญนั้นเป็นไปโดยมิชอบด้วยรัฐธรรมนูญสองครั้ง
นอกจากนี้ยังวินิจฉัยให้ร่างพระราชบัญญัติที่รัฐบาลตราขึ้นตามนโยบายสำคัญที่
ได้หาเสียงไว้ต่อประชาชนตกไปด้วยหนึ่งฉบับ
คำวินิจฉัยที่มีผลเป็นนัยสำคัญทางการเมืองในเรื่องต่างๆ เหล่านั้นเอง
ก่อให้เกิดความขัดแย้งเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ระหว่างศาลรัฐธรรมนูญกับฝ่าย
การเมือง คือรัฐสภาและคณะรัฐมนตรี รวมทั้งประชาชนผู้สนับสนุนฝ่าย
การเมืองที่ได้รับผลอันเป็นโทษจากคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ นำไปสู่คำถาม
และข้อเสนอให้ทบทวนเกี่ยวกับของเขตอำนาจหน้าที่ และบทบาทอันแท้จริงของ
ศาลรัฐธรรมนูญที่ควรจะมีหรือควรจะเป็น รวมไปถึงคำถามเบื้องต้นที่สุด
คือความจำเป็นที่จะต้องมีศาลรัฐธรรมนูญอยู่ในระบบกฎหมายและการเมืองไทย
ซึ่งถือเป็นหนึ่งในโจทย์สำคัญในการทบทวนเพื่อนำไปสู่การปฏิรูปใหญ่ในครั้งนี้
* นักวิชาการคดีรัฐธรรมนูญปฏิบัติการ สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ