Page 147 - kpi16607
P. 147

ดุลอำนาจ   ในการเมืองการปกครองไทย





                   ประชาธิปไตยและผู้ปกครองมีสภาพขึ้นต่อประชาชน อย่างไรก็ดี การที่รัฐเข้มแข็ง

                   และรวมศูนย์อำนาจไว้ที่ส่วนกลาง ทำให้การเดินหน้าสู่ประชาธิปไตยยังมีอุปสรรค
                   อยู่อย่างมาก ที่สำคัญคือ เรายังไม่สามารถสร้างการปกครองของกฎหมายได้เท่า
                   ที่ควร ยังมีระบบหลายมาตรฐาน ทั้งในกระบวนการยุติธรรมและระบบให้คุณ

                   ให้โทษของทางราชการ เป็นต้น อีกประการหนึ่ง ทัศนคติที่มีต่อรัฐบาลไม่สู้จะดีนัก
                   จริงอยู่ รัฐอาจดูเข้มแข็ง แต่รัฐบาล (ไม่ว่าทหารหรือพลเรือน) กลับดูไม่น่าเชื่อถือ
                   จนเกิดภาวะสังคมไม่ไว้วางใจขึ้นในบางภาคส่วน ซึ่งหากปล่อยไว้อาจเกิดเป็น

                   วัฏจักรที่ทำให้รัฐบาลมีความอ่อนแอดังแผนภาพต่อไปนี้
                                       แผนภาพที่ 6 : วัฏจักรรัฐบาลออนแอ
                                     แผนภาพที่ 6 : วัฏจักรรัฐบาลอ่อนแอ



                                             วัฏจักรรัฐบาลออนแอ

                                                 รัฐบาลออนแอ

                                 เลี่ยงกฎหมาย ไมจายภาษี  ประชาชนไมไวใจ
                                                                                              13


                                   ความไมไวใจฝังลึก     พึ่งบริการสาธารณะของเอกชน


                                               ระบบมาเฟีย/ระบบอุปถัมภ




              ปจจัยที่จําเปนตอการพัฒนาการเมืองของไทยจึงไดแกการสรางสังคมที่มีความไววางใ
                         ปัจจัยที่จำเป็นต่อการพัฒนาการเมืองของไทยจึงได้แก่การสร้างสังคมที่มีจที่สูงขึ้น
                   ความไว้วางใจที่สูงขึ้น ส่วนอีกปัจจัยหนึ่งได้แก่ การมีพรรคการเมืองที่เข้มแข็ง
       สวนอีกปจจัยหนึ่งไดแก การมีพรรคการเมืองที่เขมแข็ง พรรคการเมืองเปนกลไกสําคัญและเปนตัวบงชี้
                   พรรคการเมืองเป็นกลไกสำคัญและเป็นตัวบ่งชี้คุณภาพของระบอบประชาธิปไตย
       คุณภาพของระบอบประชาธิปไตย เคยมีคําขวัญวา “พรรคเลือกคน ประชาชนเลือกพรรค” ที่ผานมา พรรค
                   เคยมีคำขวัญว่า “พรรคเลือกคน ประชาชนเลือกพรรค” ที่ผ่านมา พรรคมัก
       มักเลือกคนที่มีโอกาสชนะเลือกตั้งและอยูในฐานะที่จะชวยเหลือพรรคได แตจะใหประชาชนเลือกพรรค
                   เลือกคนที่มีโอกาสชนะเลือกตั้งและอยู่ในฐานะที่จะช่วยเหลือพรรคได้ แต่จะให้
       ดวยเกณฑใด ที่ผานมา พรรคที่ศึกษาและเลือกเฟนนโยบาย “ที่ดี” มาเสนอใหประชาชนเลือกยังมีนอย
                   ประชาชนเลือกพรรคด้วยเกณฑ์ใด ที่ผ่านมา พรรคที่ศึกษาและเลือกเฟ้นนโยบาย
                   “ที่ดี” มาเสนอให้ประชาชนเลือกยังมีน้อย ส่วนใหญ่เน้นที่ตัวหัวหน้าพรรค เน้นที่
       สวนใหญเนนที่ตัวหัวหนาพรรค เนนที่การสรางความนิยมในกลุมจังหวัดซึ่งเปนที่อยูของหัวหนาหรืออดีต
                   การสร้างความนิยมในกลุ่มจังหวัดซึ่งเป็นที่อยู่ของหัวหน้าหรืออดีตหัวหน้าพรรค
       หัวหนาพรรค เนนที่โอกาสของพรรคที่จะเขารวมรัฐบาล ฯลฯ อันที่จริง เราตองการพรรคการเมืองที่พอจะ
                   เน้นที่โอกาสของพรรคที่จะเข้าร่วมรัฐบาล ฯลฯ อันที่จริง เราต้องการพรรค
       เปนตัวแทนของชนชั้นได เชน เปนตัวแทนชนชั้นบนหรือตัวแทนชนชั้นลาง หรือไมก็เปนตัวแทนของ

       อุดมการณทางการเมือง เชนเสรีนิยมหรือสังคมนิยมหรือนิเวศนิยม หรือไมก็เปนตัวแทนของวิถีชีวิตชุมชน
                                                                                   สถาบันพระปกเกล้า
       และการอนุรักษวัฒนธรรมและทรัพยากรธรรมชาติหรือตัวแทนของผูนิยมการเปลี่ยนแปลงใหทันสมัย เปน

       ตน การขาดพรรคการเมืองที่มีคุณภาพทําใหการพัฒนาการเมืองมาติดขัดที่คุณภาพของนักการเมืองและ
       นโยบายทางการเมือง


       4.  การพิจารณาการปรองดองโดยมองยอนมิติทางวัฒนธรรม


              มรดกทางสังคมการเมืองของไทยไดแก วัฒนธรรมอุปถัมภ การรวมศูนยอํานาจ ชองวางหรือ

       ความเหลื่อมล้ําทางเศรษฐกิจสังคม ประวัติศาสตรความเปนมาและวัฒนธรรมที่แตกตางกันในแตละ

       ภูมิภาคซึ่งถูกละเลยโดยรัฐสวนกลาง แตเดิมนั้น เราไมมีแนวคิดเกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาคทาง

       กฎหมาย เราจะมีก็แตสิ่งที่เรียกวา “ระบบไพร” “ระบบขุนนาง” “ระบบศักดินา” หรือ “ระบบเจาขุนมูลนาย”

       ซึ่งอาจเรียกไดวาเปนระบอบครองสมบัติ (patrimonial regime) หมายความวาเจานายถือวาตนเปนผู

       ครองสมบัติ ตั้งแตพระเจาแผนดิน ไปจนถึงขุนนางในระบบศักดินา ตางถือวาตนเปนเจาของที่ดินทั้งหมด
   142   143   144   145   146   147   148   149   150   151   152