Page 145 - kpi16607

ดุลอำนาจ ในการเมืองการปกครองไทย

กรณีตอไปเปนกรณีของภูมิภาคเอเซียตะวันออก (หมายถึงจีนเปนสําคัญ และใชไดบางกับญี่ปุน
8
เกาหลีและเวียดนาม) ซึ่งพอกลาวไดวาไดรับอิทธิพลทางความคิดจากลัทธิขงจื้อไมมากก็นอย พัฒนาการ
กรณีต่อไปเป็นกรณีของภูมิภาคเอเซียตะวันออก (หมายถึงจีนเป็นสำคัญ
ของประเทศเหลานี้มีลักษณะคลายคลึงกันคือ การเริ่มตนดวยการสรางรัฐรวมศูนยที่เขมแข็ง
และใช้ได้บ้างกับญี่ปุ่น เกาหลีและเวียดนาม) ซึ่งพอกล่าวได้ว่าได้รับอิทธิพลทาง โดยอาศัย
ความคิดจากลัทธิขงจื้อไม่มากก็น้อย พัฒนาการของประเทศเหล่านี้มีลักษณะ
8
กฎหมายเปนเครื่องมือสําคัญในการปกครองผานขุนนางสูไพรฟา ซึ่งเรียกไดวาเปนการปกครองโดย
คล้ายคลึงกันคือ การเริ่มต้นด้วยการสร้างรัฐรวมศูนย์ที่เข้มแข็ง โดยอาศัย
กฎหมาย เพราะเอาเขาจริงกฎหมายใชไมไดกับผูมีอํานาจการปกครอง ในปจจุบัน การปกครองของ
กฎหมายเป็นเครื่องมือสำคัญในการปกครองผ่านขุนนางสู่ไพร่ฟ้า ซึ่งเรียกได้ว่า
กฎหมายก็ยังไมคอยเปนจริง
เป็นการปกครองโดยกฎหมาย เพราะเอาเข้าจริงกฎหมายใช้ไม่ได้กับผู้มีอำนาจ
การปกครอง ในปัจจุบัน การปกครองของกฎหมายก็ยังไม่ค่อยเป็นจริง
แผนภาพที่ 4 : พัฒนาการทางการเมืองของประเทศที่ไดรับอิทธิพลจากขงจื้อ

แผนภาพที่ 4 : พัฒนาการทางการเมืองของประเทศที่ได้รับอิทธิพลจากขงจื้อ

พัฒนาการทางการเมืองของประเทศที่ไดรับอิทธิพลจากขงจื้อ

การสรางรัฐ ปกครองโดยกฎหมาย

การสรางชาติ
ผลทางลบ 13
การเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือยังไม
กอผล
การปกครองของกฎหมาย การขับเคลื่อนทางสังคม

สภาพขึ้นตอประชาชน

โดยมีข้อยกเว้นอยู่เสมอ สำหรับประเทศที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่อย่างจีน รัฐจะ
โดยมีขอยกเวนอยูเสมอ สําหรับประเทศที่มีพื้นที่ขนาดใหญอยางจีน รัฐจะตองสรางชาติใหเกิด
ต้องสร้างชาติให้เกิดความรู้สึกหนึ่งเดียวอยู่เสมอ แม้ว่าจะมีภาษาพูดที่ต่างกัน
แต่คนจีนก็สื่อสารกันได้ด้วยระบบการเขียนที่เหมือนกัน และการรับคนเข้าเป็นการเขียนที่
ความรูสึกหนึ่งเดียวอยูเสมอ แมวาจะมีภาษาพูดที่ตางกัน แตคนจีนก็สื่อสารกันไดดวยระบบ
ขุนนางก็ใช้ระบบความรู้ความสามารถโดยการสอบแข่งขันที่อิงลัทธิขงจื้อเหมือน
เหมือนกัน และการรับคนเขาเปนขุนนางก็ใชระบบความรูความสามารถโดยการสอบแขงขันที่อิงลัทธิขงจื้อ
กันทั้งประเทศ ความเข้มแข็งของรัฐ-ชาติเอื้อต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ไม่
เหมือนกันทั้งประเทศ ความเขมแข็งของรัฐ-ชาติเอื้อตอการเติบโตทางเศรษฐกิจ แตไมเอื้อตอการ
เอื้อต่อการพัฒนาการปกครองของกฎหมายของภาคประชาสังคมและของ

พัฒนาการปกครองของกฎหมาย ของภาคประชาสังคมและของประชาธิปไตย
ประชาธิปไตย
ที่กลาวมาเกี่ยวกับวิวัฒนาการทางการเมืองในหลายประเทศขางตนนี้ ก็หวังที่จะเชิญชวนใหมีการ

ใครครวญและการถกแถลง (deliberation) กันมากยิ่งขึ้นเกี่ยวกับพัฒนาการที่ผานมา และแนวทางการ
8 Ibid. pp.336-385
พัฒนาตอไปของการเมืองไทย ในทํานองวาเราไดผานอะไรมาแลวและมาถึงตรงไหน เผื่อจะเปนประโยชน

ในการมองทิศทางในอนาคตรวมกันตอไป โดยหวังวาการมีมุมมองที่ทอดยาวไปทั้งขางหลังและขางหนา จะ
สถาบันพระปกเกล้า
ชวยลดประเด็นที่จะทะเลาะกันในปจจุบันลงไปบาง จากแบบจําลองตาง ๆ ซึ่งยอมเปนการทําใหดูงาย

8 Ibid. pp.336-385