Page 142 - kpi16607
P. 142
ดุลอำนาจ ในการเมืองการปกครองไทย
ความรู้สึกเกี่ยวกับความขัดแย้งและความสัมพันธ์ระหว่างภาคีความขัดแย้ง
ไปสู่กรอบการรับรู้ที่ขัดแย้งกันน้อยลง”
ในด้านจิตวิญญาณ การปรองดองหมายถึง
“การบอกเล่าความจริงต่อสาธารณะ การแสดงความสำนึกผิดและการพร้อม
ชดเชยของผู้กระทำความรุนแรง และการให้อภัยของผู้ถูกกระทำและของสังคม
ตลอดจนการแสดงออกทางสังคมถึงการรับรู้ผลของความรุนแรงนั้น” จะเห็น
ได้ว่าการปรองดองมีหลายมิติและมีจุดเน้นต่างๆ กัน อย่างไรก็ดี การปรองดอง
ไม่น่าจะเกิดขึ้นเพียงเพราะเราปล่อยเวลาให้ผ่านไป โดยหวังว่าเวลาจะช่วยให้เกิด
การลืมเหตุแห่งความรุนแรงและบาดแผลทางจิตใจ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเวลา
ผ่านไปเช่นนี้มักเป็นการย้ายความขัดแย้งปรากฏเป็นความขัดแย้งแฝง (latent)
ที่รอวันจะระเบิดเป็นความรุนแรงอีกครั้ง กล่าวโดยสรุปคือ การคืนดี-ปรองดอง
เป็นความพยายามที่ต้องทำอย่างต่อเนื่องพร้อมๆ กับการแปลงเปลี่ยนความขัดแย้ง
ในทุกๆ ด้าน
134 3. พิจารณาการปรองดองย้อนมองพัฒนาการทางเมือง
ในเชิงโครงสร้าง
ความขัดแย้งทางสังคมการเมืองไทยซึ่งหวังให้การปรองดองเป็นตัวช่วย
แก้ไขนั้น มีความเป็นมาที่ยาวนานแต่ในอดีต ในที่นี้ ขอนำข้อคิดของฟรานซิส
ฟูกูยามา มาใช้เป็นกรอบการพิจารณา ฟูกูยามาเสนอว่า มิติที่สำคัญซึ่งประกอบ
3
เป็นโครงสร้างในการพัฒนาทางการเมืองได้แก่
๏ การสร้างรัฐ (state building)
๏ การปกครองของกฎหมาย (rule of law)
๏ สภาพขึ้นต่อประชาชน (democratic accountability)
โดยมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องคือ
๏ การเติบโตทางเศรษฐกิจ
๏ การขับเคลื่อนทางสังคม (social mobilization)
๏ ความคิด/อุดมการณ์/ความชอบธรรม
3 Francis Fukuyama 2014. Political
Order
and
Political
Decay.
pp. 42-44.
London: Profile Books Ltd.
สถาบันพระปกเกล้า