Page 344 - kpi16531
P. 344
นวัตกรรมการพัฒนารายได้ 32
ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ของภาคส่วนต่างๆ ทั้งภาครัฐส รัฐวิสาหกิจ เอกชน และประชาสังคม โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อ
แก้ไขปัญหาด้านต้นทุนการขนส่ง ส่งเสริมให้อำเภอทุ่งสงเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าของภาคใต้
เพิ่มศักยภาพทางการแข่งขัน และส่งเสริมการค้าขายและการลงทุนในพื้นที่ให้มากขึ้น ทั้งนี้ นายทรงชัย
วงษ์วัชรดำรง นายกเทศมนตรีเมืองทุ่งสงได้เสนอพื้นที่บริเวณหมวดศิลา ซึ่งเป็นที่ดินของการรถไฟ
แห่งประเทศไทย จำนวน 85.43 ไร่ เป็นที่ตั้งโครงการเพื่อพัฒนาเป็นศูนย์กระจายสินค้าดังกล่าว
(วิทยาลัยพัฒนาการปกครองท้องถิ่น สถาบันพระปกเกล้า, 2554; มูฮำหมัด ดือราแม, 2554)
โครงการพัฒนาศูนย์กระจายสินค้า (ระบบราง) ภาคใต้ – ทุ่งสง ได้รับการ
สนับสนุนจากรัฐบาลและได้รับความช่วยเหลือด้านเทคนิคจาก Cities Development Initiative For
Asia (CDIA) ของธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (Asian Development Bank – ADB) โดยการ
สนับสนุนของกระทรวงมหาดไทย นอกจากนั้นโครงการพัฒนาศูนย์กระจายสินค้า ภาคใต้ – ทุ่งสง
ยังเป็นส่วนหนึ่งของกรอบความร่วมมือระหว่าง 3 ประเทศ ภายใต้แผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจ
สามฝ่าย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย (Indonesia Malaysia Thailand Growth Triangle: IMT-GT)
เม็ดเงินที่ใช้ในการลงทุนพัฒนาระบบโครงข่ายคมนาคมขนส่งนี้จะช่วยสร้างงานและสร้างรายได้ให้แก่
ประชาชน รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และอาจส่งเสริมให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
ในภูมิภาคต่อไปในอนาคต (เทศบาลเมืองทุ่งสง, 2552; มูฮำหมัด ดือราแม, 2554)
4.3.3.3. การสนับสนุนความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน (Public-private
partnerships: PPPs)
= รถไฟฟ้า BTS, กทม.
โครงการรถไฟฟ้า BTS ของกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นโครงการการลงทุนที่
กรุงเทพมหานครได้ให้สัมปทานกับบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เพื่อพัฒนา
และดำเนินการโครงการรถไฟฟ้า โดยมีอายุสัญญา 30 ปี (พ.ศ. 2542 – 2572) โดยบริษัทเอกชน
เป็นผู้ลงทุนในโครงการทั้งหมด และโอนกรรมสิทธิ์ให้กับ กทม. ภายหลังก่อสร้างเสร็จ ในขณะที่
บริษัทฯ สามารถจัดเก็บรายได้ตลอดช่วงอายุสัมปทาน (คงขวัญ ศิลา, 2553) ปัจจุบันโครงการ
รถไฟฟ้า BTS มีการขยายเส้นทางการเดินรถอีกหลายเส้นทาง และเปิดโอกาสให้บริษัทเอกชนอื่นๆ
เข้ามาลงทุนในการสร้างและขยายเส้นทางดังกล่าว
โครงการรถไฟฟ้า BTS ตอบสนองต่อการขยายตัวของเมือง ช่วยบรรเทาปัญหา
การจราจรติดขัดในกรุงเทพมหานคร ก่อให้เกิดความสะดวกรวดเร็วในการเดินทางและติดต่อธุรกิจ
ต่างๆ ทำให้ประหยัดเวลาและช่วยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจในทางอ้อม ยิ่งไปกว่านั้นโครงการรถไฟฟ้า
BTS ยังช่วยกระตุ้นและดึงดูดการลงทุนของภาคเอกชน โดยเฉพาะการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์
เช่น คอนโด ที่พักอาศัย และห้างสรรพสินค้าต่างๆ ในบริเวณที่เป็นเส้นทางการเดินรถ ซึ่งก่อให้เกิด
ตัวคูณทางเศรษฐกิจและส่งผลดีต่อความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของกรุงเทพมหานครต่อไป