Page 314 - kpi12821
P. 314

แนวทางปรับปรุงกฏหมายเกี่ยวกับการยุบพรรคการเมือง




                   เสรีภาพ การเป็นปฏิปักษ์ต่ออัตลักษณ์ทางรัฐธรรมนูญ (Constitutional Identity) เช่น

                   หลักสาธารณรัฐ หลักรัฐที่เป็นกลางทางศาสนา และการที่พรรคการเมืองไม่ดำเนินการ
                   ในฐานะพรรคการเมืองอย่างแท้จริง เช่น ไม่เข้าร่วมการเลือกตั้งเป็นเวลาหลายปี
                   อย่างไรก็ดี เหตุทั้งหมดนี้ถือเป็นข้อยกเว้นที่ต้องตีความอย่างเคร่งครัด และอยู่ภายใต้
                   กระบวนการที่เข้มงวดดังเช่นที่ได้อธิบายไปแล้วในบทก่อนๆ


                             แม้ว่าการฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้งจะเป็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้องตามครรลอง
                   วิถีทางประชาธิปไตย (Procedural Democratic Principles) และผู้วิจัยก็ตระหนักดี
                   ว่าการซื้อสิทธิขายเสียงและการทุจริตเลือกตั้งเป็นปัญหาเรื้อรังในระบบการเมืองไทย

                   แต่ลำพังเพียงการทุจริตซื้อสิทธิขายเสียงในเขตท้องที่หนึ่งท้องที่ใดแล้วจะถึงขนาดถือว่า
                   เป็นล้มล้างหรือเป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตยนั้น ดูจะเป็นขยายข้อยกเว้นให้รัฐ
                   สามารถดำเนินการยุบพรรคการเมืองได้โดยง่ายจนเกินไป ดังนั้น จึงสมควรที่จะ

                   ปรับปรุงเหตุยุบพรรคข้อนี้ใหม่ โดยมีข้อควรพิจารณาดังนี้

                             4.1.1 องค์ประกอบเรื่อง “การกระทำ”


                             องค์ประกอบเรื่อง “การกระทำ” อันนำมาซึ่งเหตุยุบพรรคการเมืองตาม
                   มาตรา 237 วรรคสองนั้น กำหนดไว้อย่างกว้างขวางมาก กล่าวคือ กระทำการ ก่อ หรือ
                   สนับสนุนให้ผู้อื่นกระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้งและอนุบัญญัติที่ออก

                   ตามความในกฎหมายเลือกตั้ง ซึ่งมีผลทำให้การเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตและ
                   เที่ยงธรรม ปัญหาเบื้องต้นก็คือ กฎหมายเลือกตั้งนั้นมีข้อห้ามสำหรับผู้สมัครโดยตรง
                   กว่า 22 ข้อ โดยไม่นับรวมข้อห้ามอื่น ๆ ที่ผู้สมัครอาจร่วมกระทำความผิดได้ เช่น การ
                   พนันขันต่อ การทำลายบัตรเลือกตั้ง ในบรรดาข้อห้ามเหล่านั้น มี “คุณธรรมทาง
                   กฎหมาย” หรือคุณค่าที่กฎหมายมุ่งคุ้มครองในระดับที่มากน้อยไม่เท่ากัน
                                                                                         136
                   มีพฤติการณ์และความร้ายแรงของการกระทำไม่เท่ากัน มีผลกระทบต่อรัฐและสังคม
                   โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต่อความสุจริตและเที่ยงธรรมของของกระบวนการเลือกตั้งไม่เท่ากัน
                   ดังตัวอย่างต่อไปนี้

                                   -  นายหนึ่งจัดให้ประชาชน 30 คน ย้ายเข้ามาในเขตเลือกตั้งของตน
                                   -  นายสองใช้จ่ายเงินในการเลือกตั้งเพื่อการหาเสียงโดยสุจริตแต่ใช้
                                     ไปเกินกว่าวงเงินที่กฎหมายกำหนด
                                   -  นายสามติดป้ายโฆษณาหาเสียงนอกเขตพื้นที่ที่ กกต. กำหนด
                                   -  นายสี่จัดให้มีมหรสพขณะปราศรัยหาเสียง


                      136   ผู้สนใจเรื่องคุณธรรมทางกฎหมายโปรดดู  คณิต ณ นคร, เรื่องเดิม, น. 129 – 135.
   309   310   311   312   313   314   315   316   317   318   319