Page 67 - kpiebook67036
P. 67
66 ประเพณีการปกครองของสวีเดน: สภาท้องถิ่น (ting), สิทธิ์ในการเลือกพระมหากษัตริย์ และเสรีภาพ
และปกครองตนเองของชาวนา (the Many)
ยังยืนยันว่า พระสังฆราช (bishop) จะต้องปฏิบัติตามค�าแนะน�าหรือตามฉันทามติของคณะสงฆ์ท้องถิ่น
ดังนั้น การปกครองแบบผสมจึงพัฒนาขึ้นในศาสนจักร และถ้ารวมกับกฎหมายศาสนจักร จึงมีอิทธิพล
ต่อการเมืองทั่วทั้งอาณาจักรยุโรป 168
อนึ่ง การปกครองแบบผสมยังเป็นส่วนหนึ่งของปรัชญาการเมืองของ Aristotle ที่เริ่มมีอิทธิพลต่อ
ความคิดทางการเมืองยุโรปหลังจากที่มีการแปลงานของเขาเป็นภาษาละตินในตอนกลางศตวรรษที่สิบสาม
Aristotle ได้แจกแจงการปกครองที่ดีออกเป็นสามแบบคือ Monarchy, Aristocracy, และ Polity ซึ่ง Thomas
Aquinas และผู้สืบทอดต่อจากเขาได้สรุปว่า รูปแบบการปกครองที่ผสมทั้งสามแบบนี้เป็นการปกครอง
ที่ดีที่สุด ตามแนวคิดของ Aquinas ส่วนที่เป็นประชาธิปไตยหรืออ�านาจของคนส่วนใหญ่เป็นส่วนที่จ�าเป็น
ส�าหรับการเลือกกษัตริย์ ในขณะที่ส่วนอภิชนาธิปไตยหรืออ�านาจของอภิชนควรจะปกครองร่วมกัน
กับกษัตริย์ ดังนั้น การปกครองแบบผสมที่ Aquinas แนะน�าจึงเหมือนกับการปกครองแบบผสมที่พัฒนาขึ้น
ในสวีเดนในครึ่งแรกของศตวรรษที่สิบสี่ จะเห็นได้ว่า ในสวีเดน การมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน
ในระดับอาณาจักรจะเป็นไปตามหลักการการเลือกกษัตริย์ ส่วนปัญหาเกี่ยวกับการเก็บภาษีและ
การออกฎหมาย ในเรื่องอื่นๆ นั้น สามัญชนจะมีตัวแทน คือ อภิชนในสภาที่มีอ�านาจกว้างขวางกว่า
ล�าพังสามัญชนเท่านั้น แต่ก็ยังคงอยู่ภายในประเด็นที่ได้ก�าหนดไว้ อย่างไรก็ตาม ยังไม่แน่ชัดว่า ประเทศ
ในสแกนดิเนเวียได้รับอิทธิพลจาก Aquinas ในการวางกรอบกฎหมายบ้านเมือง เพราะการเลือกกษัตริย์
โดยประชาชนมีความเป็นมาอันยาวนาน การมีอิทธิพลของประชาชนไม่ใช่ปรากฏการณ์ใหม่ในสแกนดิเนเวีย
แต่ในส่วนของการก่อตัวอย่างเป็นทางการของอ�านาจของสภาอภิชน จะเห็นได้ว่า กฎหมายศาสนจักรและ
การจัดองค์กรศาสนจักรดูจะเป็นช่องทางที่มีอิทธิพลที่ชัดเจนที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จากการที่เป็นเรื่องปกติ
ที่บรรดาพระสังฆราชและพระทั่วคริสต์ศาสนาตะวันตกจะมีความรู้ในกฎหมายศาสนจักรในศตวรรษที่สิบสี่
ส่วนการรับความคิด Aristotle และ Aquinas น่าจะเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นอย่างช้าๆ จากตอนกลาง
ของศตวรรษที่สิบสามเป็นต้นไป ชาวสวีเดนน่าจะได้รับความรู้ในทฤษฎีของ Aristotle และ Aquinas
จากมหาวิทยาลัยปารีส และส�านักโดมินิกันน่าจะมีบทบาทส�าคัญด้วย 169
ในช่วงศตวรรษที่สิบสาม สวีเดนอยู่ในช่วงของการก่อตัวของรัฐ (state-formation) และการรวมตัว
เป็นสหภาพสแกนดิเนเวีย (Scandinavian union) หรือสหภาพคาลมาร์ (the Kalmar union) ในศตวรรษ
ที่สิบสี่ สะท้อนให้เห็นถึงการเกิดความคิดเรื่องผลประโยชน์ของชาติ และในช่วงปลายยุคกลาง การก่อตัว
ของรัฐในสวีเดนปรากฎให้เห็นถึงรูปแบบการปกครองที่ไม่ใช่ประชาธิปไตย แต่เป็นการผสมระหว่าง
ราชาธิปไตย อภิชนาธิปไตยและประชาธิปไตย แม้ว่าความเป็นประชาธิปไตยนี้จะยังมีบทบาทและ
168 Frode Hervik, “The Nordic Countries,” in Benjamin Isakhan and Stephen Stockwell (editors), The Edinburgh
Companion to the History of Democracy: From Pre-history to Future Possibilities (Edinburgh: Edinburgh
University Press, 2012), pp. 149-150.
169 Frode Hervik, “The Nordic Countries,” in Benjamin Isakhan and Stephen Stockwell (editors), The Edinburgh
Companion to the History of Democracy: From Pre-history to Future Possibilities (Edinburgh: Edinburgh
University Press, 2012), p. 150.