Page 59 - kpiebook67036
P. 59
58 ประเพณีการปกครองของสวีเดน: สภาท้องถิ่น (ting), สิทธิ์ในการเลือกพระมหากษัตริย์ และเสรีภาพ
และปกครองตนเองของชาวนา (the Many)
ส่วนค�าสัตย์ปฏิญาณอีกฝั่งหนึ่งจากพสกนิกรก�าหนดให้พวกเขาต้องเชื่อฟังและสนับสนุนกษัตริย์
และจ่ายภาษีโดยไม่ถูกบังคับและไม่ตระบัดสัตย์ และในส่วนที่เกี่ยวกับสภาของพวกอภิชน จะต้องมีสภา
(council) ของพระ—ที่เป็นคนที่เกิดในสวีเดน---และอภิชนที่ได้รับการเลือกโดยกษัตริย์ และอยู่ในต�าแหน่ง
ตลอดชีพ และกษัตริย์ปกครองราชอาณาจักร ด้วยความแนะน�าของสภา (with the advice of the Council) 152
สภาท�าหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์กฎหมายสูงสุดนี้ด้วย ในขณะที่หน้าที่หลักของพวกเขา คือ การให้
ค�าแนะน�ากษัตริย์ในสิ่งที่พวกเขารู้ว่าเป็นประโยชน์และอ�านวยผลดีต่อกษัตริย์และอาณาจักรของพระองค์
ด้วยความซื่อสัตย์ และจะต้องท�าโดยปราศจากความกลัวหรือหวังลาภยศ และสภาจะต้องท�าหน้าที่
ช่วยกษัตริย์ให้รักษาสัตย์ปฏิญาณต่อราชอาณาจักรและช่วยให้พสกนิกรรักษาสัตย์ปฏิญาณต่อกษัตริย์ 153
กฎหมายแห่งแผ่นดินได้ก�าหนดไว้อีกว่า ในการตัดสินใจในเรื่องที่ส�าคัญยิ่งเกี่ยวกับการท�าสงคราม
และสันติภาพ การแก้กฎหมาย หรือการเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเก็บภาษี กษัตริย์ควรจะปรึกษาหารือขอค�าแนะน�า
และขอการยอมรับจากชุมชนของอาณาจักร (the community of the realm) 154
ดังนั้น ภายใต้กฎหมายแห่งแผ่นดิน สวีเดนจึงเป็นชุมชนที่มีอ�านาจฝ่ายบริหารที่เข้มแข็ง
ภายใต้การปกครองโดยกษัตริย์ ที่จะสามารถบังคับบัญชาความเคารพเชื่อฟังของพสกนิกรโดยไม่ตั้งค�าถาม
โดยการบริหารราชการแผ่นดินด�ารงไปได้ด้วยภาษีที่อิสระ และควบคุมโดยกฎกติกา (the rule of law)
ซึ่งปกป้องสิทธิ์ของพสกนิกร และก�าหนดให้มีการปรึกษาหารือระหว่างกษัตริย์และพสกนิกรของพระองค์
ในเรื่องส�าคัญๆ ที่ต้องตัดสินใจ กฎหมายแห่งแผ่นดินด�ารงอยู่ในฐานะคู่มือการปกครองที่ชุมชนทั้งหลาย
ยอมรับในฐานะที่เป็นกฎหมายพื้นฐาน (fundamental law) 155
กล่าวได้ว่า การยึดถือยอมรับกฎหมายแห่งแผ่นดินหรือรัฐธรรมนูญลายลักษณ์อักษรฉบับแรก
ของสวีเดนที่เกิดขึ้นในศตวรรษที่สิบสี่ เป็นจุดเริ่มต้นของหลักการที่เรียกว่า “Swedish constitutionalism”
หรือรัฐธรรมนูญนิยมของสวีเดน ซึ่งมีพัฒนาการไปในทิศทางที่แตกต่างไปจากประเทศในกลุ่มสแกนดิเนเวีย
อื่นๆ เงื่อนไขส�าคัญก่อนอื่นใดประการแรกในการธ�ารงรักษาเสรีภาพดั้งเดิมของสวีเดนที่ในระดับหนึ่ง
สอดคล้องกับประชาธิปไตยสมัยใหม่ก็คือ กำรยอมรับให้มีกำรพิทักษ์คุ้มครองโดยกฎหมำยไม่ให้กษัตริย์
มีอ�ำนำจอันสมบูรณ์ (absolutism) และพัฒนำกำรดังกล่ำวนี้ประสบควำมส�ำเร็จที่สุดในสวีเดน
เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในกลุ่มสแกนดิเนเวีย เพราะในกรณีของเดนมาร์ก ตามหลักการ
Haandfæstning ค.ศ. 1282 ได้ให้หลักประกันแก่สิทธิ์ของประชาชนสามัญเช่นเดียวกัน แต่ในทางปฏิบัติ
พวกอภิชน (the Danehof และสภา) เป็นเพียงคนกลุ่มเดียวที่มีส่วนโดยตรงในการต่อสู้ทางอ�านาจ และ
ในที่สุดแล้ว กลุ่มดังกล่าวนี้ก็เป็นเพียงกลุ่มเดียวเท่านั้นที่เป็นพลังที่จะทัดทานกับอ�านาจส่วนกลาง 156
152 A.F. Upton, Charles XI and Swedish Absolutism (Cambridge: Cambridge University Press, 1998), pp. 1-2.
153 A.F. Upton, Charles XI and Swedish Absolutism (Cambridge: Cambridge University Press, 1998), pp. 1-2.
154 A.F. Upton, Charles XI and Swedish Absolutism (Cambridge: Cambridge University Press, 1998), pp. 1-2.
155 A.F. Upton, Charles XI and Swedish Absolutism (Cambridge: Cambridge University Press, 1998), pp. 1-2.
156 Ingvar Anderson, “Early Democratic Traditions in Scandinavia,” in Scandinavian Democracy: Development of