Page 13 - kpiebook67036
P. 13

12      ประเพณีการปกครองของสวีเดน: สภาท้องถิ่น (ting), สิทธิ์ในการเลือกพระมหากษัตริย์ และเสรีภาพ
                    และปกครองตนเองของชาวนา (the Many)




             ในปี ค.ศ. 1772 การเปลี่ยนแปลงการปกครอง ค.ศ. 1809 เกิดขึ้นโดยคณะนายทหารจ�านวนไม่ถึง 10 นาย

             ได้บุกเข้าจับตัวพระเจ้ากุสตาฟที่สี่และบังคับให้พระองค์สละราชสมบัติ ขณะเดียวกัน ก็มีนายทหาร
             ยศพันโทน�ากองก�าลังจากชายแดนตะวันตกเข้าสู่เมืองหลวงด้วย การเปลี่ยนแปลงการปกครองดังกล่าว

             ไม่มีการบาดเจ็บเสียเลือดเนื้อแต่อย่างใด และได้น�าไปสู่การร่างและประกาศใช้รัฐธรรมนูญ ค.ศ. 1809
             ที่เป็นรัฐธรรมนูญที่ออกแบบให้เกิดความสมดุลอ�านาจระหว่างสถาบันกษัตริย์และสภาฐานันดร และ

             ได้กลายเป็นรัฐธรรมนูญที่มีอายุยืนยาวถึงราว 150 ปี


                      แปด จากปัญหาการขาดผู้สืบราชสันตติวงศ์ในราชวงศ์สวีเดนหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง
             สภาฐานันดรได้ลงมติภายใต้เหตุผลของความมั่นคงทางการเมืองภายในและการเมืองระหว่างประเทศ

             ให้ ฌอง แบติส แบร์นาดอต นายพลฝรั่งเศสที่มีพื้นเพจากสามัญชนขึ้นเป็นพระเจ้าคาร์ล โยฮันที่สิบสี่
             กษัตริย์สวีเดนในปี ค.ศ. 1815 ต่อจากพระเจ้าคาร์ลที่สิบสามที่ไม่มีพระราชโอรสและพระราชธิดา

             และพระเจ้าคาร์ลที่สิบสี่เป็นต้นราชวงศ์แบร์นาดอตที่มีการสืบราชสันตติวงศ์มาจนถึงปัจจุบัน


                      ในความเห็นของผู้เขียน พัฒนาการทางการเมืองการปกครองของสวีเดนทั้งก่อนเข้าสู่ระบอบ
             สมบูรณาญาสิทธิราชย์จนถึง ค.ศ. 1809 ด�าเนินไปในลักษณะของการเหวี่ยงตัวไปมาของอ�านาจทาง

             การเมืองระหว่างสถาบันกษัตริย์กับอภิชนและสภาฐานันดร และถ้าพิจารณาภายใต้ทฤษฎีการปกครองแบบ
             ผสม จะพบว่า การเหวี่ยงตัวไปมาของขั้วอ�านาจทางการเมืองนี้สะท้อนให้เห็นถึงส่วนผสมที่ไม่ลงตัวของ

             ขั้วอ�านาจทางการเมือง ซึ่งผู้เขียนขอเรียกปรากฎการณ์ทางการเมืองดังกล่าวของสวีเดนว่า “การเหวี่ยงตัว
             ของสองระบบอ�านาจทางการเมือง”





             การเหวี่ยงตัวของสองระบบอ�านาจทางการเมือง




                                                                9
                      นัยความหมายของสองระบบการเมืองของผู้เขียน   คือ ระบบที่หนึ่ง regimen regale คือ แนวคิด
             ที่ว่าสถาบันกษัตริย์สถาปนาขึ้นโดยเชื่อมโยงกับพระผู้เป็นเจ้า และผู้ใต้ปกครองภายใต้สถาบันกษัตริย์นี้

             ไม่มีสิทธิ์ มีแต่หน้าที่ ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกันกับ dominium regale ที่หมายถึง ภายใต้ดุลอ�านาจ
                                                                                     10
             ใน dominium politicum et regale กษัตริย์มีอ�านาจน�าเหนือสภาตัวแทนประชาชน   และอยู่ในประเภท
             ราชาธิปไตยแบบผสม (mixed monarchy) ในทฤษฎีการปกครองแบบผสม


             9    มีนักวิชาการที่มีทรรศนะที่คล้ายๆ กับผู้เขียนที่มองการเมืองสวีเดนก่อนหน้าการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ค.ศ. 1809
             ว่าเป็น “การเหวี่ยงตัวของสองระบบอ�านาจทางการเมือง” คือ Lars-Goran Malmberg โดยเขาใช้ค�าว่า “Bipolar
             governance of Sweden” ที่เริ่มมาตั้งแต่ศตวรรษที่สิบสี่ Lars-Goran Malmberg, “Constitutioinal amendment
             in Sweden,” in Engineering Constitutional Change: A Comparative Perspective on Europe, Canada
             and the USA, edited by Xenophon Contiades, (New York: Routledge: 2013), p. 326.)
             10    Andrew Spicer, review of H. G. Koenigsberger’s Monarchies, States Generals and Parliaments:
             The Netherlands in the Fifteenth and Sixteenth Centuries, (review no. 292) November 2002 https://reviews.
             history.ac.uk/review/292 Date accessed: 15 July, 2019.
   8   9   10   11   12   13   14   15   16   17   18