Page 17 - kpiebook67036
P. 17

16      ประเพณีการปกครองของสวีเดน: สภาท้องถิ่น (ting), สิทธิ์ในการเลือกพระมหากษัตริย์ และเสรีภาพ
                    และปกครองตนเองของชาวนา (the Many)




             ระหว่างผู้ปกครองและสภาต่างๆ ที่เป็นสภาแห่งตัวแทน (the representative assemblies) ที่เกิดและพัฒนา

             ขึ้นในลักษณะต่างๆ ในยุโรปตั้งแต่ศตวรรษที่สิบห้า-----โดย Sir John Fortescue ในอังกฤษได้ประดิษฐ์
             วลีนี้ขึ้น----จนถึงศตวรรษที่สิบแปด ในฝรั่งเศส กษัตริย์มีอ�านาจอย่างกว้างขวางมาก และ dominium

             politicum et regale ได้กลายเป็น dominium regale   และในบทความของ Koenigsberger ผู้เขียน
                                                             19
             พบว่า เขาได้ให้ความหมายของ dominium regale ซึ่งมาจาก Sir John Fortescue และน่าจะเป็นวลี

             ที่แพร่หลายรู้จัก โดยเฉพาะ Macaulay ผู้เขียนหนังสือประวัติศาสตร์ The Governance of England
             Macaulay ได้อธิบาย dominium regale ว่าหมายถึง การปกครองสมบูรณาญาสิทธิราชย์ (absolute

             monarchy) ที่หมายถึงระบอบที่กษัตริย์เก็บภาษีสามัญชนได้ตามอ�าเภอใจในขณะที่ยกเว้นไม่เก็บ
             พวกอภิชน ซึ่ง Macaulay กล่าวว่า Fortescue เห็นว่า dominium regale เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ  20


                      dominium regale จึงหมายถึงการที่กษัตริย์สามารถเก็บภาษีได้ตามอ�าเภอใจ ส่วนในที่อื่นๆ

             ในยุโรป การปกครองโดยทั่วไปจะเข้าข่าย dominium politicum et regale คือกษัตริย์ไม่ได้มีพระราชสิทธิ์
             เช่นว่านี้ โดยการปกครองของยุโรปส่วนใหญ่ที่ว่านี้จะเป็นระบอบที่พระราชจ�ากัดหรือเป็นระบอบผสม

             ซึ่งเป็นตัวแบบหรืออุดมคติส�าหรับสภาต่างๆ ที่เป็นสภาตัวแทนและราชาธิปไตยหรือการปกครองโดย
             เอกบุคคลจะประสานร่วมมือกับสภาต่างๆ นี้เพื่อ “common good” และอภิสิทธิ์ของทุกฝ่ายเป็นสิ่งที่

             จะต้องได้รับการยอมรับและปกป้องคุ้มครอง เพื่อเป็นหนทางที่จะธ�ารงไว้ซึ่งการสมดุลระหว่างผู้ปกครอง
             และผู้ใต้ปกครอง แต่กระนั้น dominium politicum et regale ก็ไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่ด�าเนินไปโดยไม่มี

             การท้าทาย อย่างเช่น ถ้ากษัตริย์มีอ�านาจมากเข้มแข็งและสามารถใช้ก�าลังพิชิตและควบคุมแว่นแคว้นได้
             สิทธิ์ของดินแดนดังกล่าวก็จะอยู่ภายใต้กษัตริย์พระองค์นั้น หรือกลับกัน
                                                                            21

                      ขณะเดียวกัน dominium politicum et regale ยังเป็นระบบที่สามารถปรับตัวเข้ากับการมีกษัตริย์

             ที่มากมาย (the multiple monarchies) ในยุโรปตอนต้นสมัยใหม่ โดยผู้ปกครองแคว้นหรือ “the prince”
             สาบานที่จะเคารพอภิสิทธิ์ของส่วนเฉพาะต่างๆ ที่เป็นส่วนประกอบของราชอาณาจักรของพระองค์

             และสามารถผนวกเข้ามาเป็นดินแดนของพระองค์ได้โดยง่าย ในขณะที่ยังคงไว้ซึ่งสมดุลระหว่างตัวแทน
             และการปกครองหรือรัฐบาลภายในองค์ประกอบแต่ละส่วน





             2019 บทความที่กล่าวถึงประเด็นนี้ก่อนหน้า Koenigsberger คือ S. B. Chrimes, “Sir John Fortescue and His Theory
             of Dominion: (The Alexander Prize Essay),” Transactions of the Royal Historical Society, Vol. 17 (1934), pp. 117-147.
             19    Andrew Spicer, review of H. G. Koenigsberger’s Monarchies, States Generals and Parliaments: The Neth-
             erlands in the Fifteenth and Sixteenth Centuries, (review no. 292) November 2002 https://reviews.history.ac.uk/
             review/292 Date accessed: 15 July, 2019.
             20    H. G. Koenigsberger, “Monarchies and Parliaments in Early Modern Europe Dominium Regale or Dominium

             Politicum et Regale,” Theory and Society, Vol. 5, No. 2 (Mar., 1978), p. 191.
             21    Andrew Spicer, review of H. G. Koenigsberger’s Monarchies, States Generals and Parliaments:
             The Netherlands in the Fifteenth and Sixteenth Centuries, (review no. 292) November 2002 https://reviews.
             history.ac.uk/review/292 Date accessed: 15 July, 2019.
   12   13   14   15   16   17   18   19   20   21   22