Page 68 - kpiebook67035
P. 68
การเสริมสร้างความมั่นคงทางสังคมของชาติเพื่ออนาคตประชาธิปไตยไทย
กรณีศึกษาการใช้ทุนทางวัฒนธรรม
เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคมในพื้นที่เทศบาลตำาบลเชียงคาน
รู้เรื่องแต่ไม่อยากเข้าร่วมกิจกรรมเพราะคิดว่าเป็นการเสียเวลา ซึ่งเทศบาลอาจประชาสัมพันธ
ให้เข้าถึงกลุ่มที่หลากหลายมากขึ้นเพื่อให้ประชาชนกลุ่มต่าง ๆ ทราบวันและระยะเวลาในการ
ร่วมออกแบบกิจกรรม ทั้งนี้ ในกระบวนการรับฟังความคิดเห็นที่มีเนื้อหามาก อย่างเช่น การทำา
เทศบัญญัติ ซึ่งเป็นกิจกรรมเพื่อให้เกิดกติกาของคนในชุมชนโดยการมีส่วนร่วมของคนในชุมชนเอง
พบว่า เวลาในการให้มีข้อชวนคิดชวนคุยอาจจำากัดเกินไป ทำาให้ขาดการวิเคราะห ซึ่งควรมีเวลา
ส่วนนี้ให้มากขึ้น
ผู้เข้าร่วมการสนทนากลุ่มจากภาคประชาชนมีข้อคิดเห็นต่อการแนะนำาให้กับองคกร
ปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นหลายแบบทั้งการแนะนำาให้เข้าดูสิ่งที่เทศบาลดำาเนินการผ่านช่องทาง
ต่าง ๆ เช่น คิวอารโค้ดที่สามารถเชื่อมเข้าไปดูกิจกรรมที่เทศบาลดำาเนินการเกี่ยวกับการส่งเสริม
วัฒนธรรม หรือมีการประชาสัมพันธกิจกรรมของเทศบาลผ่านงานเทศกาล มีการประชาสัมพันธ์มีการประชาสัมพันธ์
ในพื้นที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นื้นที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น แล้วเป็นต้นแบบนำาร่องในพื้นที่อื่นในสื่อที่กระจาย
ในพ
ไปอย่างรวดเร็ว เช่น การแข่งขันเรือยาวที่มีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลก นอกจากนี้ ในกิจกรรม
ที่มีความซับซ้อนอย่างการร่วมใช้สิทธิในการออกแบบกติกาตนเอง อาจแนะนำาให้ประชาชน แนะนำาให้ประชาชน
ในพื้นที่อื่นได้เห็นสิทธิและความสำาคัญของการมีส่วนร่วมโดยภาคประชาชน แนะนำาเรื่องสิทธิื้นที่อื่นได้เห็นสิทธิและความสำาคัญของการมีส่วนร่วมโดยภาคประชาชน แนะนำาเรื่องสิทธิ
ในพ
ประชาธิปไตยิปไตย ยกตัวอย่างเช่น พระราชบัญญัติการเข้าชื่อเสนอข้อบัญญัติท้องถิ่น พ.ศ.2565
ประชาธ
ที่ประชาชนสามารถเสนอกฎหมายตัวเองได้ ซึ่งอาจทำาให้ชุมชนตื่นตัวในหลายพื้นที่และมีตัวแบบ
ในการเรียนรู้ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับว่าพื้นที่อื่นจะดำาเนินการตามตัวแบบนี้หรือไม่
นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมการสนทนากลุ่มจากภาคประชาชนกล่าวถึงผู้มีส่วนร่วมในการส่งเสริม
ทุนวัฒนธรรมท้องถิ่นว่า เดิมชาวเชียงคานได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงาน เช่น มหาวิทยาลัย
องคกรปกครองส่วนท้องถิ่น องคการบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
(อพท.) วัฒนธรรมจังหวัดเลย มหาวิทยาลัยราชภัฎจังหวัดเลย อีกทั้งยังมีหน่วยงานทั้งภาครัฐและ
เอกชนเข้ามาศึกษาดูงานเรื่องทุนวัฒนธรรมในพื้นที่อีกหลายหน่วยงาน การพัฒนาทุนวัฒนธรรม
ในพื้นที่ อาจมีหน่วยงานวิจัยจัดทำาตัวแบบให้ แต่เทศบาลฯ ต้องเป็นหน่วยงานลำาดับแรกที่เอื้อ
ให้เกิดการมีส่วนร่วมของคนในพื้นที่ ยกตัวอย่างในการออกเทศบัญญัติเพื่อเป็นกติกาชุมชน
ซึ่งควรมีงบประมาณในการส่งเสริม รวมไปถึงเชื่อมโยงไปกับหน่วยงานระดับจังหวัดที่เกี่ยวข้อง
เพราะแม้ชุมชนเข้มแข็งเพียงใดก็จำาเป็นต้องมีเครือข่ายเพื่อให้ชุมชนเติบโตอย่างยั่งยืนและ
อยู่ต่อไปอย่างมั่นคง ซึ่งสอดคล้องกับผู้ให้สัมภาษณที่เห็นว่า ควรมีการบูรณาการการทำางาน
ส่วนราชการ เช่น ตลาดต้องชม ตลาดต้องชิม ถนนวัฒนธรรม OTOP ทำาให้เป็นเรื่องเดียวกัน
(01 [สัมภาษณ], 26 กรกฎาคม 2566)
66