Page 31 - kpiebook67033
P. 31
สถ�บันพระปกเกล ้ �
King Prajadhipok’s Institute
โลกทางตะวันตก ที่มีการเรียกร้องสิทธิจากกลุ่มต่าง ๆ ของสังคมซึ่งเป็นสิทธิอันชอบธรรมของบุคคลนั้น ๆ
(บรรเจิด สิงคะเนติ, 2547) สำาหรับสิทธิที่กล่าวถึงนั้นแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ สิทธิตามธรรมชาติ
(Natural rights) และ สิทธิที่มีอำานาจอย่างเด็ดขาด (Positivism) โดยสิทธิตามธรรมชาติ คือ สิทธิ
ที่ได้มาแต่กำาเนิด ไม่มีอำานาจใดมาละเมิดหรือลิดรอนสิทธิได้ ในขณะที่สิทธิที่มีอำานาจอย่างเด็ดขาด
คือสิทธิที่รัฐหรือประเทศกำาหนดให้ประชาชนตามแต่กฎหมายของประเทศนั้น ๆ กำาหนด รวมถึง
มีความแตกต่างตามรูปแบบการปกครองของแต่ละประเทศด้วย (Del Dickson, 2014) และยัง
หมายรวมถึงการมีสิทธิในการออกเสียงเลือกตั้งอย่างเท่าเทียมด้วย (Etzioni - Halevy, 1997) สิทธิ
ในการแสดงความคิดเห็น สิทธิในการตัดสินใจที่จะดำาเนินการใด ๆ ของกลุ่มหรือสังคมหนึ่ง ๆ (Beetham,
2012) หรือแม้แต่สิทธิในการเข้าถึงการบริการสาธารณะที่เท่าเทียมและทั่วถึงด้วย
อย่างไรก็ตาม การที่ประชาชนสามารถแสดงความคิดเห็น หรือสามารถรับรู้ข้อมูล
ข่าวสารได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียมนั้นถือเป็นการให้เสรีภาพแก่ประชาชน (Etzioni - Halevy, 1997)
โดยต้องเป็นการให้เสรีภาพที่พอเพียง (sufficient freedom) ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบไหนก็ตาม โดยไม่มี
การแทรกแซงจากหน่วยงานหรือบุคคลอื่นซึ่งทำาให้ต้องยุติสิ่งที่ได้ตัดสินใจไปแล้วนั้น (Larry Diamond,
2000) ทั้งนี้ ต้องไม่ฝ่าฝืนกับข้อกำาหนดของกฎหมายและบริบทของสังคมด้วย (สถาบันพระปกเกล้า,
2562; 2564) ในขณะที่หน้าที่ (duty) คือ ความรับผิดชอบของบุคคลที่จะต้องปฏิบัติเพื่อให้สอดคล้อง
กับระเบียบของสังคม เช่น หน้าที่ในการเสียภาษีของพลเมือง เป็นต้น
สำาหรับประเทศไทยมีการระบุถึงสิทธิของประชาชนครั้งแรกในรัฐธรรมนูญแห่ง
ราชอาณาจักไทย พุทธศักราช 2475 เช่น มาตรา 12 “...บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมายฐานันดรศักดิ์
โดยกำาเนิดก็ดี โดยแต่งตั้งก็ดี หรือประการอื่นใดก็ดีไม่กระทำาให้เกิดเอกสิทธิ์อย่างใดเลย” และมาตรา
14 “...บุคคลย่อมมีเสรีภาพบริบูรณ์ในร่างกาย เคหสถาน ทรัพย์สิน การพูด การเขียน การโฆษณา
การศึกษาอบรม การประชุมโดยเปิดเผย การตั้งสมาคม การอาชีพ...” โดยในรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน
(รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560) ได้มีการกำาหนดถึงสิทธิ เสรีภาพและหน้าที่
ของพลเมืองไว้อย่างชัดเจน ในหมวดที่ 3 ว่าด้วยเรื่องสิทธิ และเสรีภาพของปวงชนชาวไทย เช่น ความ
เสมอภาค สิทธิและเสรีภาพส่วนบุคคล สิทธิในกระบวนการยุติธรรม เป็นต้น และในหมวดที่ 4 ว่าด้วย
เรื่องหน้าที่ของชนชาวไทย และยังได้เพิ่มการให้สิทธิแก่ประชาชนตามกลไกของหน้าที่ของรัฐด้วย
ทั้งนี้ จากการทบทวนวรรณกรรมซึ่งเป็นการศึกษาองค์ความรู้เรื่องตัวชี้วัดประชาธิปไตย
ในมิติสิทธิ เสรีภาพ และหน้าที่ ในบริบทของประเทศไทย ได้แบ่งมิติย่อยออกเป็น 5 องค์ประกอบ
ได้แก่ มิติเรื่อง ประกอบด้วย การเสียสละเพื่อส่วนร่วม การเสียภาษี การมีสิทธิที่เท่าเทียม การยอมรับ
ฟังความเห็นผู้อื่น การได้รับการคุ้มครองสิทธิ และ การมีเสรีภาพในการเข้าถึงข้อมูล (สถาบัน
พระปกเกล้า, 2562; 2564) ซึ่งถือว่าเป็นสิทธิเสรีภาพและหน้าที่ของพลเมืองในฐานะปัจเจกชน
ต้องได้รับการปกป้อง และไม่ว่าอาศัยอยู่ ณ ที่ใดก็ตาม ทุกคนพึงได้รับอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง
29