Page 67 - kpiebook67026
P. 67
66 ผลการใช้กฎหมายรับรองเพศสภาพ : กรณีประเทศอาร์เจนตินา มอลตา และไอซ์แลนด์
ไม่เพียงแต่จะต้องพิสูจนว่าได้ท�าการรักษาโดยวิธีการใช้ฮอรโมนและการผ่าตัดเท่านั้น
แต่ยังต้องแสดงให้ศาลเห็นถึงลักษณะพันธุกรรมของการเป็นบุคคลแปลงเพศของผู้ร้อง
อีกด้วย ซึ่งศาลสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรปเห็นว่าการที่ศาลเยอรมันก�าหนดให้ผู้ร้องมีภาระ
การพิสูจนเกี่ยวกับความจ�าเป็นในการรักษาทางการแพทยเป็นสิ่งที่ไม่มีความเหมาะสม
และไม่เป็นการเคารพต่อชีวิตส่วนตัวของผู้ร้องซึ่งเป็นการละเมิดมาตรา 8 ของอนุสัญญา
ว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรป
ประการที่สอง สิ่งที่น่าสนใจคดีนี้คือ ศาลสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรปไม่ได้วางหลัก
เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการแปลงเพศของผู้ร้องว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่อยู่ในความรับผิด
ของบริษัทประกันสุขภาพของเอกชนหรือรัฐและจะได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 8
ของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรปด้วยหรือไม่ เพียงแต่ศาลได้วางหลักว่า
กรณีนี้ไม่ว่าผู้ร้องจะได้รับเงินค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการแปลงเพศคืนจากบริษัทของเอกชน
หรือไม่ก็ตาม ค�าพิพากษาของศาลในประเทศสหพันธรัฐเยอรมนีย่อมส่งผลกระทบต่อ
สิทธิของผู้ร้องในลักษณะเป็นการละเมิดสิทธิส่วนตัวซึ่งได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 8
ของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรปในตัวอยู่แล้ว ซึ่งอาจกล่าวต่อไปได้ว่า
บริษัทประกันสุขภาพควรช�าระเงินค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการแปลงเพศคืนแก่ผู้ร้อง เพราะ
แม้ว่าการช�าระเงินค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการแปลงเพศจะไม่ใช่สิทธิที่อยู่ภายใต้บทบัญญัติ
มาตรา 8 ของอนุสัญญาก็ตาม แต่การที่บริษัทมีหน้าที่ต้องช�าระเงินค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับ
การแปลงเพศถือเป็นผลโดยตรงมาจากการรับรองสิทธิในการก�าหนดชะตาชีวิตในทางเพศ
ของบุคคลตามค�าตัดสินของศาลสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรปนั่นเอง
ต่อมาในปี ค.ศ. 2009 ศาลสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรปได้มีค�าวินิจฉัยใน
Schlumpf v. Switzerland (2009) ซึ่งมีข้อเท็จจริงว่า คดีนี้ผู้ร้องได้ผ่านการแปลงเพศ
จากชายเป็นเพศหญิง ต่อมาผู้ร้องได้ยื่นค�าร้องเพื่อขอรับเงินค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการแปลงเพศ
โดยวิธีการผ่าตัดแปลงเพศคืนจากบริษัทประกันสุขภาพเอกชนแห่งหนึ่ง แต่บริษัทประกัน
สุขภาพได้ปฏิเสธไม่จ่ายเงินดังกล่าวแก่ผู้ร้อง ผู้ร้องจึงน�าคดีมาฟ้องศาล ซึ่งศาลสูงสุดของ
ประเทศสวิตเซอรแลนด (the Swiss High Court) พิจารณาแล้วเห็นว่า บริษัทประกัน
สุขภาพมีหน้าที่ต้องจ่ายเงินเกี่ยวกับการผ่าตัดแปลงเพศของบุคคลก็ต่อเมื่อเป็นกรณีของ
การแปลงเพศอย่างแท้จริง (true transsexualism) ซึ่งค�าว่า True transsexualism
หมายความว่า การเข้าสู่กระบวนการแปลงเพศ บุคคลนั้นต้องผ่านการตรวจสอบโดยวิธี