Page 60 - kpiebook67026
P. 60

59



               สมรส เป็นต้น ซึ่งในเรื่องนี้ศาลสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรปเคยมีค�าตัดสินว่า การที่รัฐสมาชิก
               ก�าหนดเงื่อนไขเรื่องการหย่าร้างก่อนการรับรองอัตลักษณทางเพศตามกฎหมายของ

               บุคคลข้ามเพศ เป็นเงื่อนไขที่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งค�าตัดสินดังกล่าวส่งผลท�าให้บุคคล
               ข้ามเพศต้องเกิดความลังเลใจเนื่องจากเขาเหล่านั้นต้องตัดสินใจเลือกระหว่างการรับรอง

               เพศใหม่หรือยังคงไว้ซึ่งสถานะสมรสที่ตนมีอยู่ ในขณะที่องคการสหประชาชาติยังไม่มี
               การวางแนวทางในเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาสาระส�าคัญ

               ในหลักการยอกยาการตาจะพบว่าเงื่อนไขต่าง ๆ ดังที่ได้กล่าวมาในข้างต้นล้วนเป็น
               ข้อห้ามมิให้น�ามาใช้เป็นเงื่อนไขของการรับรองอัตลักษณทางเพศตามกฎหมายของ

               กลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศทั้งสิ้น

                      ดังจะเห็นได้จากข้อ 3 ของหลักการยอกยาการตาฉบับปี ค.ศ. 2007 ซึ่งบัญญัติ

               ว่า “...ห้ามมิให้มีการบีบบังคับผู้ใดให้รับกระบวนการทางการแพทย์ รวมถึงการผ่าตัด
               แปลงเพศ การท�าหมัน หรือการรักษาด้วยฮอร์โมน เพราะเป็นเงื่อนไขเพื่อให้ได้

               การรับรองอัตลักษณ์ทางเพศตามกฎหมาย ต้องไม่มีการน�าเอาสถานะอื่น ๆ เช่น
               การเป็นคู่สมรส หรือบุพการีมาใช้อ้างเพื่อกีดกันมิให้อัตลักษณ์ทางเพศของบุคคลใด

               บุคคลหนึ่งได้รับการรับรองตามกฎหมาย ต้องมิให้ผู้ใดถูกกดดันให้ต้องปิดบังเก็บระงับ
               หรือปฏิเสธวิถีทางเพศหรืออัตลักษณ์ทางเพศของตน”


                      นอกจากนั้น ยังเป็นไปตามข้อ 32 ของหลักการยอกยาการตาฉบับปี ค.ศ. 2017
               ซึ่งบัญญัติว่า “บุคคลทุกคนย่อมมีสิทธิในร่างกายและจิตใจอย่างสมบูรณ์ รวมถึงมีอ�านาจ

               อิสระและสามารถก�าหนดเจตจ�านงของตนเองโดยปราศจากการค�านึงถึงวิถีทางเพศ
               อัตลักษณ์ทางเพศ การแสดงออกทางเพศ หรือคุณลักษณะทางเพศของบุคคลนั้น

               นอกจากนั้น บุคคลย่อมมีสิทธิในเสรีภาพจากการถูกกระท�าทรมาน และการปฏิบัติ
               หรือลงโทษในลักษณะทารุณโหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือการลงโทษบุคคลเพราะเหตุ

               แห่งวิถีทางเพศ อัตลักษณ์ทางเพศ การแสดงออกทางเพศ หรือคุณลักษณะทางเพศ
               ของบุคคลนั้น โดยจะต้องไม่มีบุคคลใดถูกแทรกแซงหรือไม่อาจเปลี่ยนแปลงกลับไป

               เป็นเพศเดิมได้ด้วยวิธีการรักษาทางการแพทย์เพื่อปรับเปลี่ยนเพศของตนเองใหม่
               โดยปราศจากอ�านาจตัดสินใจอย่างอิสระและได้รับความยินยอมจากบุคคลนั้นเสียก่อน

               เว้นเสียแต่จะมีเหตุอันจ�าเป็นและเร่งด่วนอย่างยิ่งเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายที่ไม่อาจแก้ไข
               ได้ที่จะเกิดขึ้นกับบุคคลนั้น”
   55   56   57   58   59   60   61   62   63   64   65