Page 53 - kpiebook67026
P. 53
52 ผลการใช้กฎหมายรับรองเพศสภาพ : กรณีประเทศอาร์เจนตินา มอลตา และไอซ์แลนด์
ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับการรวมกลุ่มของบุคคลเพื่อประชุมในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งใน
ที่สาธารณะและพื้นที่ส่วนตัวรวมถึงการแสดงออกในรูปแบบของการเดินขบวนต่าง ๆ
และเสรีภาพในการสมาคม (Freedom of Association) ตามบทบัญญัติมาตรา 22
วรรคหนึ่งของกติกาฯ ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับการจัดตั้งกลุ่มของบุคคลเพื่อแสดงออกซึ่ง
ความคิด สนับสนุน ชักชวนหรือต่อต้านผลประโยชนในเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นการทั่วไป
ซึ่งการรับรองสิทธิในเสรีภาพทั้งสามมาตราที่ได้กล่าวมานี้ถือเป็นหัวใจส�าคัญของ
การด�าเนินกิจกรรมต่าง ๆ ในสังคมประชาธิปไตย ทั้งยังมีบทบาทส�าคัญในการท�าหน้าที่
ปกป้องคุ้มครองสิทธิมนุษยชนแก่บุคคลในสังคมอีกด้วย ตัวอย่างเช่น การใช้เสรีภาพ
ในการแสดงออก การสมาคม และการชุมนุมโดยสงบของบุคคลนับว่ามีความส�าคัญมาก
ต่อการด�าเนินกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงการโฆษณาเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการป้องกัน
การแพร่เชื้อเอชไอวีและเอดสของกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ เนื่องจาก
สามารถกระท�าผ่านทางการชุมนุมโดยสงบหรือการเข้าร่วมเป็นสมาชิกในสมาคมแห่งใด
แห่งหนึ่ง ซึ่งวิธีการดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงระดับของการเข้ามามีส่วนร่วมของประชาชน
ในกระบวนการประชาธิปไตยอีกด้วย
ในฝั่งทวีปยุโรปนั้น การคุ้มครองเสรีภาพในการแสดงออกทางเพศเกิดขึ้น
อย่างเป็นรูปธรรมชัดเจนจากการวางหลักกฎหมายของศาลสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรป
โดยในปี ค.ศ. 1999 ศาลสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรปได้น�าเรื่อง “ความเป็นส่วนตัว”
ตามมาตรา 8 แห่งอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรปมาใช้ในการยกเลิกกฎหมาย
ซึ่งกีดกันบุคคลรักเพศเดียวกันออกจากกองทัพ โดยตัดสินว่าการห้ามมิให้บุคคลเหล่านี้
เป็นทหารเกณฑเพราะเหตุที่พวกเขาเป็นบุคคลรักเพศเดียวกันถือเป็นการละเมิดสิทธิ
ส่วนบุคคล จากค�าตัดสินของศาลสิทธิมนุษยชนนี้จะเห็นได้ว่า ศาลตีความขอบเขต
ความเป็นส่วนตัวของบุคคลจากเดิมที่เป็นการใช้สิทธิภายในพื้นที่ส่วนตัว ให้ขยาย
ครอบคลุมไปถึงการใช้สิทธิในพื้นที่สาธารณะด้วย (Public Realm) ในขณะที่องคการ
สหประชาชาติ โดยผู้รายงานตรวจสอบพิเศษว่าด้วยการสนับสนุนและคุ้มครองสิทธิ
ในเสรีภาพทางความคิด และการแสดงออกได้แสดงความเห็นว่าการจับกุมบุคคล
หรือก�าหนดบทลงโทษบุคคลที่มีการแต่งกายตรงข้ามเพศสรีระ หรือเพศตามก�าเนิด
เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนของบุคคลเช่นกัน