Page 39 - kpiebook67026
P. 39
38 ผลการใช้กฎหมายรับรองเพศสภาพ : กรณีประเทศอาร์เจนตินา มอลตา และไอซ์แลนด์
2.2.1 อัตลักษณ์ทางเพศกับความเป็ นส่วนตัวของบุคคล
2.2.1.1 ความหมายและขอบเขตความเป็นส่วนตัว
การศึกษาเรื่องความเป็นส่วนตัว (Privacy) ของบุคคลในทฤษฎีทางกฎหมาย
เป็นการอธิบายถึงความเป็นส่วนตัวในขอบเขตพื้นที่ส่วนตัว (Private Sphere) และพื้นที่
สาธารณะ (Public Sphere) ว่ามีขอบเขตแยกจากกันอยู่อย่างไร และมีความสัมพันธ
กันหรือไม่ เพียงไร ซึ่งผลจากการศึกษาความหมายและขอบเขตของสิทธิส่วนตัว
ภายใต้แนวคิด และทฤษฎีทางกฎหมายว่าด้วยความเป็นส่วนตัว และจากพัฒนาการ
ของการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวบุคคลสามารถสรุปได้ว่า “ความเป็นส่วนตัวของบุคคล
(Privacy)” หมายถึง การอยู่อย่างล�าพังโดยมีความเป็นอิสระจากการถูกล่วงล�้าในเรื่อง
ส่วนตัวจากบุคคลภายนอก ความมีอิสระที่จะก�าหนดชะตากรรมของตนเอง โดยปลอด
จากการแทรกแซงตามอ�าเภอใจของผู้อื่น และการจ�ากัดการเข้าถึงบุคคลโดยบุคคลอื่นโดย
“ความเป็นส่วนตัวของบุคคล” ประกอบด้วยสิ่งซึ่งเป็นสาระส�าคัญอยู่ 3 ประการ ได้แก่
ประการแรก ความเป็นส่วนตัวของบุคคลเป็นเรื่องเกี่ยวกับการก�าหนดหรือ
ตัดสินใจของบุคคล (Decisional Privacy) กล่าวคือ ความเป็นส่วนตัวของบุคคล
จะมีขอบเขตแค่ไหนเพียงไรขึ้นอยู่กับความเชื่อและทัศนคติของบุคคลเหล่านั้นว่า
ความเป็นส่วนตัวของพวกเขาควรมีขอบเขตแค่ไหนเพียงใด ความเป็นส่วนตัวในแง่นี้
จึงมีความสัมพันธใกล้ชิดกับทางเลือกในการด�าเนินชีวิตของบุคคลซึ่งมีศูนยกลาง
ตั้งอยู่บนพื้นฐานเรื่องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย (Personal Dignity) และอ�านาจอิสระ
ในการก�าหนดตนเอง (Autonomy) ซึ่งก่อให้เกิดความเป็นส่วนตัวในเรื่องต่าง ๆ ได้แก่
(1) การมีอ�านาจอิสระในการก�าหนดตนเองเพื่อพัฒนาบุคลิกภาพทางร่างกาย
หรือที่เรียกว่า “ความเป็นส่วนตัวในทางกายภาพ” ซึ่งได้แก่ สิทธิในชีวิต
และร่างกายซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่แสดงให้เห็นว่าบุคคลมีอ�านาจอิสระ
ในการก�าหนดตนเองที่จะกระท�าการใด ๆ ตามที่ตนปรารถนา ซึ่งขอบเขต
ของการใช้สิทธิในชีวิตและร่างกายของบุคคลคือขอบเขตปริมณฑล
ส่วนบุคคลของบุคคลอื่น
(2) การมีอ�านาจอิสระในการก�าหนดตนเองเพื่อพัฒนาบุคลิกภาพของบุคคล
ในทางจิตใจหรือที่เรียกว่า “ความเป็นส่วนตัวในทางจิตใจ” ซึ่งปรากฏผ่าน