Page 36 - kpiebook67026
P. 36

35




                     2.1.1 แบบจ�าลองของการประกอบสร้างทางสังคม (Social
                     Construction Model: ค.ศ. 1975 – 1990)

                      ทฤษฎีนี้เชื่อว่าเพศวิถีเป็นการเชื่อมโยงกันระหว่างปัจจัยทางประวัติศาสตรและ

               วัฒนธรรม ซึ่งพฤติกรรมทางเพศ (Sexual Acts) จะมีนัยทางสังคมและการให้ความหมาย
               ของแต่ละบุคคลที่หลากหลาย และแตกต่างกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาทางประวัติศาสตร

               และวัฒนธรรมในการให้ค�าจ�ากัดความ และการท�าความเข้าใจพฤติกรรมทางเพศนั้น ๆ
               เนื่องจากพฤติกรรมทางเพศไม่ได้มีความหมายที่เป็นสากล ดังนั้น ความสัมพันธระหว่าง

               พฤติกรรมทางเพศกับการให้ความหมายในเรื่องเพศสัมพันธ (Sexual Meaning)
               จึงไม่มีความตายตัว ขึ้นอยู่กับว่าผู้สังเกตการณอยู่ในช่วงเวลาใด และสถานที่ใด

               ซึ่งการประกอบสร้างทางสังคมนอกจากจะมีอิทธิพลต่อวิธีคิด และวิธีปฏิบัติของ
               บุคคลแล้วยังสามารถเป็นตัวก�าหนด (Organize) และให้ความหมาย (Meaning)

               ที่มีอิทธิพลต่อการให้ค�าจ�ากัดความ (Definitions) อุดมการณ (Ideologies) และ
               ระเบียบกฎเกณฑต่าง ๆ (Regulations) เกี่ยวกับเพศวิถี (Sexuality) รวมทั้งการสร้าง

               อัตลักษณทางเพศ (Sexual Identities) จากประสบการณทางเพศของกลุ่มบุคคลอีกด้วย

                      นอกจากนี้ยังเชื่อว่า ประเด็นทางด้านกามารมณ เช่น กรณีของรักต่างเพศ

               รักร่วมเพศ และรักสองเพศ ไม่ได้เป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นเองจากตัวบุคคลใดบุคคลหนึ่ง
               แต่เป็นการสร้างที่ได้รับอิทธิพลจากสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ รอบตัวที่มีรูปแบบหลากหลาย

               ซึ่งทฤษฎีนี้ไม่ยอมรับว่าแรงขับทางเพศ (Sexual Impulse, Sex Drive or Lust)
               ในร่างกายมนุษยเกิดขึ้นจากการท�าหน้าที่ และความรู้สึกของปัจจัยทางด้านสรีระวิทยา

               ภายในร่างกาย และเชื่อว่าความปรารถนาทางเพศ (Sexual Desire) ของมนุษยถูกสร้างขึ้น
               โดยปัจจัยทางด้านวัฒนธรรม และประวัติศาสตรที่มีอิทธิพลต่อก�าลังความสามารถ

               (Energies) และสมรรถภาพ (Capacities) ของร่างกาย




                     2.1.2 แบบจ�าลองอิทธิพลทางวัฒนธรรม (Cultural

                     Influence Model: ค.ศ. 1920 – 1990)

                      ทฤษฎีนี้เชื่อว่า เพศวิถีเปรียบเสมือนปัจจัยพื้นฐาน (Basic Material) ในการท�า
               หน้าที่ทางวัฒนธรรม ดังนั้น จึงให้ความส�าคัญกับบทบาทของวัฒนธรรมและการเรียนรู้
   31   32   33   34   35   36   37   38   39   40   41