Page 435 - kpiebook67020
P. 435
434 การศึกษาการป้องกันวิกฤตสังคมในอนาคต
(สดานุ สุขเกษม, 2562, น.35) เป็นเหตุให้ชาวบ้านบางกลอยบางส่วนกลับไปอาศัยและ
ท�ากินในพื้นที่เดิมของเขาครั้งแล้วครั้งเล่า จนเกิดเหตุให้รัฐเข้าผลักดันออกจากพื้นที่
หลายครั้ง สอดคล้องกับผู้ให้สัมภาษณ์ที่กล่าวว่า ชาวบ้านที่อยู่มาก่อนต้องขออนุญาต
ซึ่งถือเป็นการไม่ยอมรับการรักษาทรัพยากรในรูปแบบของชุมชน เมื่อต้องเข้าไปจัดการ
บางในกรณีบางกลอยเห็นได้ว่าเป็นลักษณะรุนแรงและไม่ยอมรับการพูดคุยเจรจา
เพื่อให้เกิดการอยู่ร่วมกันระหว่างคนกับป่าเหมือนพื้นที่อื่น แต่ระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา
ตั้งแต่ปี 2554 รัฐหรือเฉพาะเจาะจงคือหน่วยงานอุทยานกลับเลือกแนวทางที่แตกหัก
ดังเช่นที่มีการเผาท�าลายยุ้งฉางของชาวบ้าน
ผู้ให้สัมภาษณ์ยังกล่าวต่อที่แสดงให้เห็นถึงกระบวนการยุติธรรมที่ไม่อาจ
ตอบสนองต่อความหลากหลายได้ โดยกล่าวว่าระหว่างที่ด�าเนินเรื่องฟ้องร้องต่อ
หน่วยงานรัฐที่มีความยืดเยื้อ ท�าให้ชาวบ้านมีความเดือดร้อนเรื่องการเดินทาง
จากหมู่บ้านลงมาที่แก่งใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง และไปที่เพชรบุรี ชาวบ้านยังมี
ปัญหาด้านสุขภาพ อาหาร ที่ดินท�ากิน ความยากจน ภาษา ฯลฯ ซึ่งการมีคดีความนี้
สร้างความเหลื่อมล�้า แม้มีหน่วยงานภายนอกให้ความช่วยเหลืออย่างทนายอาสา
ที่เข้าใจเรื่องสิทธิมนุษยชนพยายามที่จะด�าเนินการให้ชาวบ้านได้รับข้อมูลในทุกขั้นตอน
อย่างเต็มที่ แต่ก็มีความยากล�าบากในการแปลภาษาและการลงชื่อในเอกสารที่ตนเอง
ไม่ได้อ่าน เหล่านี้เป็นเงื่อนไขที่ชาวบ้านรู้สึกว่าตนเองไม่ได้รับความเป็นธรรม (ผู้ให้ข้อมูล 2
[สัมภาษณ์], 5 มกราคม 2565)
การพัฒนาที่ขาดมิติความหลากหลายดังกล่าวสอดคล้องกับข้อค้นพบของ
ภัทรมน สุวพันธุ์ และสุธี ประศาสน์เศรษฐ (2563, น.60-61) ที่ว่าการประกาสพื้นที่
อุทยาน ท�าให้ชาวบ้านไม่อาจท�าไร่แบบดั้งเดิม จึงท�าให้ผลผลิตไม่เพียงพอต่อครอบครัว
ชาวบ้านบางส่วนต้องออกไปรับจ้างในเมือง ท�าให้วิถีชีวิตแบบเดิมของชาวบ้านหายไป