Page 15 - kpiebook67014
P. 15
และเข้าร่วมในสถาบันต่าง ๆ รวมถึงการมีความสัมพันธ์ทางสังคมในชีวิตประจ าวัน ในที่นี้การเข้าถึงทรัพยากรทาง
สังคมเป็นเรื่องส าคัญของการสร้างความมั่นคงให้กับประชาชน
2) ความสมานฉันท์ทางสังคม มีความเชื่อมโยงกับกระบวนการที่เป็นอุปสรรคหรือลดทอนความขัดแย้ง
ของความร่วมมือที่เป็นเครือข่ายทางสังคม ทั้งนี้ ระดับของความสมานฉันท์ที่ยอมรับได้จะต้องเป็นระดับที่ทุกคนใน
สังคมสามารถที่อยู่ในสังคมในฐานะมนุษย์อย่างแท้จริง ในทางตรงกันข้าม ความรุนแรงทางสังคมจะแสดงออกมา
ผ่านการแบ่งแยกระหว่างภูมิภาค ความรู้สึกน้อยเนื้อต่ าใจของชนกลุ่มน้อย การไม่เท่าเทียมกันในโอกาสที่จะเข้าถึง
ทรัพยากรและการบริการที่รัฐจะจัดหาให้ รวมถึงความไม่เท่าเทียมกันของส่วนแบ่งทางเศรษฐกิจ ซึ่งความ
สมานฉันท์ทางสังคมนี้จะเกี่ยวข้องกับสภาพทางสังคมที่เป็นวัตถุและความมีศักดิ์ศรีของมนุษย์ ความสมานฉันท์ทาง
สังคมจึงเป็นเรื่องความสัมพันธ์ทางสังคม คุณค่าทางสังคม และบรรทัดฐานทางสังคมอันเป็นที่ยอมรับของส่วนรวม
การสร้างความสามัคคีและความไว้วางใจร่วมกันในสังคม ซึ่งประกอบด้วย ความไว้วางใจทั่วไปหรือการไว้วางใจ
ผู้อื่น และความไว้วางใจเฉพาะที่ที่มีต่อสถาบันต่าง ๆ นอกจากนี้ความสามัคคีในสังคมยังรวมถึงการสร้างเครือข่าย
ทางสังคมและการมีอัตลักษณ์
3) การรวมตัวกันทางสังคม มีความเกี่ยวข้องกับหลักของความเสมอภาคเท่าเทียมกัน รวมถึงโครงสร้าง
ทางสังคมที่จะก่อให้เกิดสภาพการณ์ของความไม่เสมอภาคเท่าเทียมกันดังกล่าว เป้าหมายของการรวมตัวกันทาง
สังคมคือ การครอบคลุมของบริการซึ่งเป็นผลมาจากการมีโครงสร้างพื้นฐานที่ดี สถานการณ์แรงงาน และลักษณะ
บริการหรือการตอบสนองทางวัตถุที่เป็นส่วนรวม โดยเฉพาะการดูแลเกี่ยวกับกลไกที่ไม่ก่อให้เกิดการกีดกันขัดขวาง
หรือลดระดับการเอารัดเอาเปรียบทางสังคมให้น้อยที่สุด การรวมตัวกันในสังคมจึงเป็นการที่ประชาชนสามารถ
เข้าถึงและเข้าร่วมกับสถาบันต่าง ๆ รวมถึงการมีความสัมพันธ์ทางสังคม การเข้าถึงบริการทางสังคมและทรัพยากร
เพื่อช่วยให้ผู้ขาดแคลนสามารถกลับสู่เส้นทางหลักของสังคมได้อีกครั้ง นอกจากนี้ ยังเกี่ยวข้องกับศักยภาพที่จะมี
ปฏิสัมพันธ์ในบริบทของความสัมพันธ์ทางสังคม ศักยภาพในการถ่ายทอดองค์ความรู้ต่าง ๆ สู่สังคมโดย
ความสัมพันธ์ทางสังคม การสร้างพลังทางสังคม ไม่ว่าจะเป็นองค์ความรู้ ตลาดแรงงาน การแบ่งเวลาให้งานและ
ชีวิตครอบครัว
4) การสร้างพลังทางสังคม คือ ความรู้สึกหรือส านึกในความสามารถหรือสมรรถนะของบุคคลที่จะเข้าไปมี
ส่วนร่วมในทางสังคม เศรษฐกิจ การเมือง และวัฒนธรรม ซึ่งเป้าหมายหลักของการเสริมสร้างพลังคือการส่งเสริม
ให้คนสามารถเป็นพลเมืองที่มีศักยภาพและมีอ านาจอย่างแท้จริง การสร้างพลังทางสังคมจึงเป็น ศักยภาพที่แสดง
ให้เห็นและการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม เป็นการเสริมสร้างความสามารถเฉพาะตัวของปัจเจกบุคคลและศักยภาพใน
การถ่ายทอดความสามารถดังกล่าวสู่สังคมผ่านความสัมพันธ์ทางสังคม ตลอดจนการพัฒนาชีวิตของครอบครัว
วัฒนธรรมและชุมชน ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนมีอ านาจในการบริหารจัดการและด าเนินกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อพัฒนา
ชุมชนให้มีความเข้มแข็ง การสร้างพลังทางสังคมจึงมีเป้าหมายในการดึงศักยภาพของประชาชนในชุมชนให้สามารถ
มีอ านาจในการตัดสินใจได้เอง และสามารถน าองค์ความรู้มาถ่ายทอดให้กับผู้อื่นได้
2.5 แนวคิดความเป็นพลเมือง (Citizenship)
พลเมือง คือ บุคคลผู้เป็นก าลังส าคัญของบ้านเมือง (สุภีร์ สมอนา, 2558, น.5) ข้อความดังกล่าวสามารถ
อธิบายให้ชัดเจนอย่างสอดคล้องกับที่เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ (2559) กล่าวว่า พลเมือง คือผู้ที่มีจิตส านึกร่วมใน
การเป็นเจ้าของประเทศ ส านึกในสิทธิ หน้าที่ และมีความรับผิดชอบ ทั้งต่อตนเอง ครอบครัว สังคมและ
ประเทศชาติ พลเมืองจึงเป็นผู้ที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตัว ไม่เพิกเฉยต่อเรื่องที่เป็น
ประเด็นสาธารณะ และไม่ใช่ผู้ที่รอรับความช่วยเหลือจากผู้อื่นเท่านั้น แต่เป็นคนที่พร้อมช่วยเหลือเมื่อผู้อื่นต้องการ
- 12 -