Page 21 - kpiebook66024
P. 21
การตรวจสอบถ่วงดุลระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร ภายใต้ระบบรัฐสภา การตรวจสอบถ่วงดุลระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร ภายใต้ระบบรัฐสภา
ความพยายามในการสร้างความเสถียรภาพของรัฐบาล มาเป็นการพยายามสร้างระบบ
การตรวจสอบถ่วงดุลที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้น เช่น การยกเลิกการบัญญัติให้รัฐมนตรี
จะต้องไม่เป็นสมาชิกรัฐสภา เป็นต้น และโจทย์สำคัญดังกล่าวก็ยังคงเป็นโจทย์
ที่ต่อเนื่องมาจนมีการยกร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560
แต่การสร้างระบบการตรวจสอบของฝ่ายบริหาร โดยเน้นไปที่ตรวจสอบความชอบด้วย
กฎหมายโดยสถาบันตุลาการ ทำให้เกิดคำถามและการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับ
การทำให้เรื่องการเมืองกลายเป็นเรื่องทางกฎหมาย และเกิดแนวคิดที่ต้องการให้
ความสำคัญในการตรวจสอบเรื่องที่มีลักษณะทางการเมือง เป็นการตรวจสอบทาง
การเมือง ซึ่งก็คือการใช้กลไกการควบคุมการบริหารราชการแผ่นดินโดยรัฐสภา
ด้วยเหตุนี้ คำถามเกี่ยวกับการควบคุมการบริหารราชการแผ่นดินโดยรัฐสภาซึ่งมี
เสียงข้างมากเป็นพวกเดียวกับฝ่ายบริหารจึงกลายเป็นประเด็นคำถามที่สำคัญต่อ
การพัฒนาระบบรัฐสภาของประเทศไทย
บทที่ 4 : จะเป็นการชี้ให้เห็นถึงกรณีศึกษาต่างประเทศที่กำหนดเกี่ยวกับ
การตรวจสอบถ่วงดุลฝ่ายบริหารโดยใช้กลไกของระบบรัฐสภา แต่จะต้องทำความเข้าใจ
เสียก่อนว่า การวางระบบการตรวจสอบถ่วงดุลฝ่ายบริหารโดยรัฐสภาให้ถึงขนาดว่า
พรรคฝ่ายค้านเองซึ่งเป็นเสียงข้างน้อยในรัฐสภาสามารถยับยั้งหรือล้มล้างการกำหนด
นโยบาย หรือการดำเนินนโยบายของฝ่ายบริหารนั้น ถือเป็นเรื่องที่ “ผิดธรรมชาติ”
ของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย เนื่องจาก เมื่อมีการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิก
สภาผู้แทนราษฎร แต่ละพรรคการเมืองย่อมแสดงนโยบายในการหาเสียงของตน
ประหนึ่งคำสัญญากับประชาชนว่าถ้าหากพรรคของตนได้รับเลือกตั้งแล้วนั้น
จะทำอย่างไร และการได้รับเสียงข้างมากในรัฐสภา ก็เท่ากับว่าประชาชนพอใจและ
ต้องการให้มีการดำเนินนโยบายเช่นนั้น หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ พรรคการเมืองที่ได้
รับเสียงข้างมากนั้น สะท้อนความต้องการของประชาชน และเมื่อสภาผู้แทนราษฎร
ได้เลือกประมุขของฝ่ายบริหารแล้ว ประมุขของฝ่ายบริหาร (ซึ่งมักจะมาจาก
พรรคการเมืองเดียวกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเสียงข้างมากในรัฐสภา) ก็ย่อมผูกพัน
จะต้องดำเนินนโยบายตามที่ได้สัญญากับประชาชนไว้ตอนหาเสียง ดังนั้น การสร้าง
ระบบควบคุมการบริหารราชการแผ่นดินให้ถึงขนาดที่พรรคฝ่ายค้านซึ่งเป็น
เสียงข้างน้อยสามารถตรวจสอบหรือล้มล้างการตัดสินใจของรัฐบาลได้ หรือสร้างระบบ
ที่ทำให้เกิดการนำประเด็นทางการเมืองไปเป็นเรื่องทางกฎหมายได้ทุกเรื่อง ก็อาจทำให้
ได้ผลลัพธ์ที่ไม่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของประชาชนที่เลือกตัวแทนจาก