Page 43 - kpiebook66015
P. 43
นอกจากนี้ เมื่อมีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญของประเทศฝรั่งเศสใน ค.ศ. 2008 ก็ได้มีการบัญญัติ
กลไกดังกล่าวขึ้น แต่เดิมนั้น รัฐธรรมนูญประเทศฝรั่งเศสก าหนดให้ประธานาธิบดีโดยค าแนะน าของ
นายกรัฐมนตรีสามารถน าร่างกฎหมายต่อไปนี้ไปขอให้มีการลงประชามติได้ ได้แก่ ร่างกฎหมายที่เกี่ยวกับ
องค์กรที่ใช้อ านาจรัฐ หรือร่างกฎหมายที่เกี่ยวกับการปฏิรูปการเมืองทางเศรษฐกิจ สังคม หรือสิ่งแวดล้อม หรือ
ร่างกฎหมายที่จะมีผลเป็นการอนุมัติให้มีการให้สัตยาบันแก่สนธิสัญญา ซึ่งจะมีผลต่ออ านาจหน้าที่ของสถาบัน
(ทางการเมือง) โดยไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และเมื่อมีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ก็ก าหนดให้สมาชิกรัฐสภาไม่
น้อยกว่าหนึ่งในห้า สามารถขอให้มีการลงประชามติเกี่ยวกับร่างกฎหมายดังกล่าวได้ แต่ต้องมีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
ไม่น้อยกว่าหนึ่งในสิบลงชื่อรับรอง และมีข้อจ ากัดเพิ่มเติมว่าร่างกฎหมายในประเด็นดังกล่าวนั้น จะต้องไม่มีผล
เป็นการยกเลิกกฎหมายซึ่งบังคับใช้มายังไม่ถึง 1 ปี และถ้าหากประชาชนให้ความเห็นชอบแล้ว ก็ต้อง
61
ประกาศใช้กฎหมายนั้น
อย่างไรก็ตาม การก าหนดกติกาดังกล่าวไม่ได้เกิดจากความต้องการให้อ านาจแก่ผู้แทนเสียงส่วนน้อย
ในรัฐสภา หากแต่เกิดจากแนวความคิดที่ว่าต้องการให้ประชาชนสามารถเข้าชื่อขอให้มีการลงประชามติได้
โดยตรงในกรณีที่เกี่ยวข้องกับร่างกฎหมายดังกล่าว แต่เกรงว่าถ้าหากปล่อยให้ประชาชนเข้าชื่อกันขอให้มีการ
ลงประชามติโดยตรงแล้ว อาจเกิดการขอให้ลงประชามติที่มีผลเป็นการจ ากัดสิทธิของคนส่วนน้อยจนเกิดการ
พิพาทกัน และแม้จะสามารถสร้างกลไกให้องค์กรตุลาการสามารถวินิจฉัยความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของ
ประเด็นที่น ามาลงประชามติได้ก็ตาม แต่ก็อาจสร้างบรรยากาศทางการเมืองที่ไม่ดีได้ จึงสร้างกลไกให้เสียงส่วน
62
น้อยในสภาต้องร่วมริเริ่มกับประชาชนที่เข้าชื่อด้วย เพื่อเป็นการกรองก่อนอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งการก าหนดกลไกให้
ประชาชนร่วมลงชื่อรับรองด้วยนี้ ผู้เขียนเห็นว่าอาจเป็นการป้องกันไม่ให้เสียงส่วนน้อยใช้กลไกดังกล่าวโดย
ค านึงถึงผลประโยชน์ของพรรคตนแต่เพียงอย่างเดียวจนประสบปัญหาเหมือนอย่างกรณีประเทศสโลวิเนีย
กลไกการให้เสียงข้างน้อยของรัฐสภาสามารถขอให้มีการออกเสียงประชามติในประเด็นที่เสียงข้าง
น้อยในรัฐสภาอาจมองว่าการตัดสินใจของพรรคร่วมรัฐบาลเสียงข้างมากอาจจะไม่สอดคล้องกับเจตนารมณ์
ของประชาชน และในเมื่อเป็นการคืนอ านาจการตัดสินใจให้ประชาชนแล้วนั้น ก็อาจจะเป็นการตัดสินใจได้ทั้ง
เรื่องที่เป็นประเด็นทางการเมือง เช่น กฎหมายที่เกี่ยวกับการด าเนินนโยบายของรัฐบาล แม้ว่าร่างกฎหมายนั้น
จะชอบด้วยรัฐธรรมนูญก็ตาม แต่ก็ยังมีอีกกลไกหนึ่งที่ถือว่าเป็นกลไกช่วยถ่วงดุลอ านาจของเสียงข้างมากของ
พรรคร่วมรัฐบาลในรัฐสภา นั่นคือ การก าหนดให้มีศาลรัฐธรรมนูญเพื่อท าหน้าที่คุ้มครองเสียงข้างน้อยใน
63
รัฐสภา และปกป้องสิทธิเสรีภาพของประชาชน โดยรัฐธรรมนูญหลายประเทศที่ก าหนดให้มีศาลรัฐธรรมนูญ
และมักก าหนดให้สมาชิกรัฐสภาเสียงข้างน้อยน าคดีขึ้นสู่ศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย
ความชอบด้วยรัฐธรรมนูญได้ แต่โดยหลักแล้ว การตรวจสอบถ่วงดุลโดยใช้องค์กรตุลาการนั้น มักจะเป็นการ
ตรวจสอบถ่วงดุลที่มีข้อจ ากัดคือตรวจสอบได้เฉพาะความชอบด้วยกฎหมายหรือความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ
เท่านั้น กล่าวคือ ฝ่ายตุลาการไม่อาจเข้าไปตรวจสอบได้ว่าการด าเนินนโยบายของฝ่ายบริหารนั้นดีหรือไม่ดี
61 รัฐธรรมนูญประเทศฝรั่งเศส ค.ศ. 1958 ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ค.ศ. 2008 มาตรา 11
62 Jean Pierre Camby, Patrick Fraisseix and Jean Gicquel. (2008). La révision de 2008, une nouvelle
constitution ? Paris : LGDJ, p.2009
63 บรรเจิด สิงคเนติ, 2559, ทิศทางรัฐสภาไทย : ศักราชใหม่ในการปฏิรูปประเทศ, จุลนิติ ม.ค.- ก.พ. 2559, หน้า 13
42