Page 50 - kpiebook66004
P. 50
50
เอกชนขององค์กรต่าง ๆ ก็ดี ที�ทำให้เกิดสภาวะที�ยากลำบัากของกรีซ ทำให้สภาวะหลังประชาธิ์ิปไตย ที�ไม่มี
ความเป็นการเมืองนั�นถูกมองว่าเป็นปัญหามากยิ�งขึ�น เนื�องจากมาตรการต่าง ๆ นั�นทำให้ประชาชนเสียผลประโยชน์
152
และทำให้ความเหลื�อมล�ำสูงขึ�น ดังนั�น สิ�งที�พิรรคซิริซ่าเสนอ จึงเป็นปฏิิกริยาต่อเสรีนิยมใหม่และการกระทำ
ดังกล่าวของภาครัฐกรีซและสหภาพิยุโรป ซึ�งเป็นการต่อต้านนโยบัายรัดเข็มขัด และแสดงตนเป็นทางเลือกทางการ
เมืองใหม่ที�มีความเป็นการเมือง สิ�งที�ซิริซ่าทำจึงเป็นสร้างขั�วทางการเมืองขึ�นมาอีกครั�งจากสภาวะหลังการเมือง
และหลังประชาธิ์ิปไตย ที�สนับัสนุนให้ตัวแสดงทางการเมือง—ซึ�งในที�นี�คือประชาชน—นั�นมีความตื�นตัวทางการเมือง
และสื�อสารกับัสังคมว่าสภาวะที�เป็น “ตรงกลาง” ทางการเมืองอย่าง อำนาจนำของเสรีนิยมใหม่นั�นเป็นปัญหา
และทำให้กรีซและประชาชนนั�นเดือดร้อน ในจุดนี� ซิริซ่าจึงได้สวมบัทบัาทในฐานะที�เป็นพิรรคการเมืองที�เป็น
ตัวแทนในการต่อสู้ทางสังคมโดยการสถาปนาขั�วตรงข้ามทางการเมืองที�เป็น “พวกเรีา ปะที่ะ พวกเขา” ขึ�น
โดย “พวกเรีา” นั�นหมายถึงเหยื�อของเสรีนิยมใหม่ และโลกาภิวัตน์ เช่น การแปรรูปองค์กรเป็นเอกชน หรือการ
ลดบัทบัาทของรัฐในการควบัคุมกฎเกณีฑ์์ต่าง ๆ ของตลาด เช่น กลุ่มแรงงาน กลุ่มเปราะบัางทางเศูรษฐกิจ หรือ
กลุ่มคนรุ่นใหม่ ส่วน “พวกเขา” นั�นหมายถึง ผู้ที�กุมอำนาจ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มชนชั�นสูง สถาบัันทางการเมืองต่าง ๆ
พิรรคการเมืองในระบับัสองพิรรคอย่าง ND และ PASOK กลุ่มธิ์นาคาร หรือพิวกคณีาธิ์ิปัตย์ 153
การสร้างคู่ตรงข้ามในลักษณีะนี� จึงมีความคล้ายคลึงกันมากในกรณีีของพิรรคโปเดมอสของสเปน ไม่ว่าจะ
เป็นชุดของคำในการเกิดปรากฏิการณี์การครองอำนาจนำของเสรีนิยมใหม่ สภาวะหลังการเมืองและหลังประชาธิ์ิปไตย
และการใช้นโยบัายรัดเข็มขัดของภาครัฐต่อประชาชน และตามมาด้วยการตอบัโต้ของประชาชนในรูปแบับัของ
การเคลื�อนไหวทางสังคมโดยการชุมนุมประท้วง ทำให้เห็นถึงตัวแบับัที�คล้ายกันในปรากฎการณี์ทางการเมืองใน
ลักษณีะนี� แน่นอนว่าวิกฤตเศูรษฐกิจครั�งใหญ่ และการสูญเสียความเชื�อมั�นของรัฐและสถาบัันทางการเมืองนั�น
เป็นบัรรยากาศูที�เอื�อให้เกิดปรากฏิการณี์ประชานิยม ดังที�เคยเกิดขึ�นมากมายในยุโรป และเคยถูกมองว่าเป็น
154
155
เสมือนโรคร้าย ที�บั่อนทำลายประชาธิ์ิปไตย และเสถียรภาพิของสหภาพิยุโรป แต่ในอีกแง่มุมหนึ�งนั�น ประชานิยม
ดังที�ได้กล่าวไปว่าสามารถเป็นได้ทั�งการแก้ไข และเป็นได้ทั�งภัยคุกคามของประชาธิ์ิปไตย ด้วยความที�ในแง่หนึ�ง
156
ประชาชนก็เป็นส่วนหนึ�งของประชาธิ์ิปไตย แต่การใช้เพิียงเสียงข้างมากของประชาชนเป็นตัวตัดสินเพิียงอย่างเดียว
ก็เป็นการละเลยคุณีค่าอื�น ๆ ของประชาธิ์ิปไตยไปด้วยเช่นกัน
ดังนั�น ในสถานการณี์วิกฤตที�ปะทุขึ�นในกรีซหลังปี 2008 นั�น จึงเป็นโอกาสของประชานิยมที�จะเกิดขึ�น
ซิริซ่าจึงใช้โอกาสนั�นเช่นกัน แต่เป็นการตีความการเป็นประชานิยมใหม่ที�ไม่ใช่ประชานิยมในฝ่่ายขวา แต่เป็น
ประชานิยมที�พิยายามรวบัรวมความต้องการของประชาชนเพิื�อที�จะตอบัสนองความต้องการนั�น โดยใช้วิถีทางที�เป็น
ประชาธิ์ิปไตยมากขึ�น โดยการประกาศูต่อต้านนโยบัายและแนวทางที�ขัดต่อผลประโยชน์ของประชาชน เพิื�อที�จะ
รวบัรวมเสียงของประชาชนในการเข้าสู่อำนาจ และแสดงตนเป็นตัวแทนของประชาชน โดยอ้างอำนาจอธิ์ิปไตย
152 Markou, ‘The Rise of Inclusionary Populism in Europe’, 56.
153 Katsambekis, ‘The Populist Radical Left in Greece’, 27.
154 Yannis Stavrakakis, ‘Populism, Anti-Populism and Democracy’, Political Insight 9, no. 3 (1 September 2018): 33–35,
https://doi.org/10.1177/2041905818796577.
155 Giorgos Katsambekis and Yannis Stavrakakis, ‘Populism, Anti-Populism and European Democracy: A View
from the South’, openDemocracy, 23 July 2013, https://www.opendemocracy.net/en/can-europe-makeit/populism-an-
ti-populism-and-european-democr/.
156 Mudde and Kaltwasser, Populism in Europe and the Americas, 16.