Page 40 - kpiebook66004
P. 40
40
113
มีความเหมือนกันในเชิงยุทธิ์ศูาสตร์ Errejón จึงกล่าวว่านี�เป็นการต่อสู้ของวาทศูิลป์ (rethorical battle) แต่
โปเดมอสมีเป้าหมายในการมีอำนาจนำและอำนาจรัฐ จากประชาชนที�มีความแตกต่างหลากหลาย และส่วนใหญ่
เป็นประชาชนที�ไม่ได้ถูกทำให้มีความสำคัญ และพิวกเขาเหล่านั�นจึงต้องการทวงคืนความเป็นเจ้าของของสถาบััน
ทางการเมืองต่าง ๆ โปเดมอสจึงถูกสร้างขึ�นจากการมองเห็นว่าคู่ตรงข้ามคือคู่ตรงข้ามระหว่างอะไร และมีเป้าหมายอย่างไร
แน่นอนว่าบัริบัทในสเปน โปเดมอสพิยายามอยู่ในตำแหน่งที�ก้าวข้ามการแบั่งคู่ตรงข้ามแบับัซ้ายและขวา แต่
การบัอกว่าไม่ใช่ฝ่่ายซ้ายก็ทำให้ไม่ได้คะแนนคะแนนเสียงจากฝ่่ายก้าวหน้า แต่ Errejón เห็นว่า การแบั่งขั�ว
ทางการเมืองแบับัซ้ายและขวา ทำให้คู่ขัดแย้งและคู่ต่อสู้ทางการเมืองไปตกอยู่เพิียงที�ประชาชนสองฝ่่ายเท่านั�น
ดังนั�น เหล่า “ชนชั�นสูง” หรือ casta ที�กุมอำนาจที�แท้จริงอยู่ในสังคมจึงไม่เดือดร้อน “ชนชั�นสูง” จึงอาจจัดตัวเอง
เป็นซ้ายกลางหรือขวากลาง เพิื�อความคล่องตัวในการอยู่ในฐานะที�สูงกว่า แต่หากเราหันมามองคู่ตรงข้ามใหม่
ว่าเป็นคู่ขัดแย้งระหว่าง ประชาชน กับั ชนชั�นสูง ก็จะทำให้พิวกเขาอยู่ในตำแหน่งที�รู้ตัวว่าเป็นคู่ขัดแย้งของ
114
ประชาชนทั�งหมด ไม่ว่าจะซ้ายหรือขวา ชนชั�นสูงเหล่านี�จึงเป็นสถานะที�ขัดต่อผลประโยชน์ของประชาชนโดยรวม
115
สิ�งนี�จึงไม่ใช่การสลายคู่ตรงข้ามที�เป็นการเมืองทางเลือกที�สาม (The Third Way) หรือสภาวะหลังการเมือง
แต่เป็นการสร้างคู่ตรงข้ามใหม่ ที�เป็นคู่ขัดแย้งแนวดิ�ง ระหว่างประชาชน กับัชนชั�นสูง ที�ต้องรวบัรวมประชาชน
ในแนวราบั เพิื�อสร้างความหมายทางการเมืองแบับัใหม่ ภายใต้ความแตกต่าง และเอาชนะชนชั�นสูงเหล่านั�นด้วย
เจตจำนงของประชาชนที�แท้จริง
ประชานิยมฝ่่ายซ้าย ในแง่นี�จึงเป็นการพิยายามทำให้ระดับัของความเป็นประชาธิ์ิปไตยมากยิ�งขึ�น ในแง่
ของความเท่าเทียมและการมีเสรีภาพิในทุก ๆ ด้าน และการทำเช่นนั�นจึงต้องการยุทธิ์ศูาสตร์แบับัประชานิยม
ฝ่่ายซ้าย เพิราะการมีเพิียงแค่วาระหรือความคิดที�ก้าวหน้านั�นไม่เพิียงพิอที�จะบัรรลุเป้าหมายได้ ดังนั�น จึงต้องมี
การสร้างคู่ตรงข้ามใหม่ ที� มูฟ เรียกว่าเป็นคู่ตรงข้ามแบับั agonistic ซึ�งหมายถึงการต่อสู้ที�ไม่จำเป็นต้องเอากันถึงตาย
แต่เป็นการต่อสู้กันในสนามทางการเมือง ที�มีกฎกติกา มีแพิ้ชนะเสมือนกีฬา คู่ตรงข้ามนั�นจึงจะนำไปสู่การสร้างเจตจำนง
ร่วมของประชาชน ที�สามารถท้าทายอำนาจของชนชั�นสูงที�เป็นผลผลิตของเสรีนิยมใหม่ได้ มูฟ จึงเห็นว่าประชานิยม
ฝ่่ายซ้าย เป็นทางออกสำหรับัการสร้างประชาธิ์ิปไตยที�หยั�งรากลึก จากการถูกทำลายโดยอำนาจนำของเสรีนิยมใหม่
116
ประชานิยมฝ่่ายซ้ายนี�จึงทำให้สามารถสร้างแนวทางทางการเมืองที�แตกต่างจากทั�งซ้ายกลาง และซ้ายสุดโต่งได้
และแน่นอนว่าแตกต่างกับัแนวทางประชานิยมฝ่่ายขวา ที�แม้จะมียุทธิ์ศูาสตร์ที�คล้ายกัน เพิราะในความเห็นของ มูฟ
117
นั�น การเป็นประชานิยมก็เท่ากับัเป็นประชาธิ์ิปไตย เพิราะในแง่มุมของประชานิยมคือการสร้างประชาชน หรือ
มวลชน (demos) ดังนั�น ประชานิยมฝ่่ายซ้ายคือประชานิยมที�มีเป้าหมายในการสร้างประชาธิ์ิปไตยที�หยั�งรากลึก 118
113 เช่นเดียวกับักรณีีของ Donald Trump อดีตประธิ์านาธิ์ิปดีของสหรัฐอเมริกา ที�มีที�ปรึกษาคนสำคัญ ที�ชื�อว่า Stephen K.
Bannon ผู้ซึ�งเป็นผู้วางยุทธิ์ศูาสตร์ประชานิยมให้กับั Trump และยังได้มีการกล่าวถึงคู่ขัดแย้งในรูปแบับัใหม่ คือประชาชนที�ไม่รู้
ข้อมูลข่าวสาร กับัชนชั�นสูงไม่ว่าจะเป็น ชนชาติ เชื�อชาติ สีผิวหรือเพิศูใด ซึ�งมีความคล้ายคลึงกับัประชานิยมฝ่่ายซ้ายในแง่ของ
การรวบัรวมประชาชน ดู Matea Gold et al., ‘For Trump Adviser Stephen Bannon, Fiery Populism Followed Life in
Elite Circles’, Washington Post, 19 November 2016, sec. Politics, https://www.washingtonpost.com/politics/
for-trump-adviser-stephenbannon-fiery-populism-followed-life-in-elite-circles/2016/11/19/de91ef40-ac57-11e6-977a-
1030f822fc35_story.html.
114 Errejón and Mouffe, Podemos, 121.
115 Mouffe, For a Left Populism, 33.
116 Errejón and Mouffe, Podemos, 123–24.
117 Ibid., 126.
118 Ibid., 127.