Page 41 - kpiebook66004
P. 41
41
โปเดมอสจึงต้องมีการดึงคนจากหลายกลุ่ม โดยเฉพิาะความเป็นสตรีนิยม หรือจาก ผู้เรียกร้องสิทธิ์ิสัตว์
119
นักวิทยาศูาสตร์ ทหาร ตำรวจ หรือ กลุ่มอนุรักษ์สิ�งแวดล้อม เพิราะนั�นหมายถึงการที�ประชาชนทุกกลุ่มได้
120
สะท้อนความต้องการของตนออกมา ซึ�งนั�นหมายถึง “พิลังของประชาธิ์ิปไตย” เป็นพิลังที�ประชาชนในแง่ของ
องค์รวมทั�งหมดได้ถูกแสดงออกมา (represented) ไม่ว่าจะเป็นประชาชนกลุ่มใด ซ้ายหรือขวา เป็นกลุ่มอัตลักษณี์
ทางชาติพิันธิ์ุ์ หรือทางเพิศูสภาพิ ไม่ว่าจะประกอบัอาชีพิใด หากพิบัว่าตนนั�นถูกกดทันโดยกลุ่ม 1% หรือชนชั�นสูง
ด้านบัน ทุกคนคือประชาชนที�ถูกเอาเปรียบัเหมือนกัน พิลังประชาธิ์ิปไตยในแง่นี�จึงเป็นการแจ้งความจำนงของ
ประชาชนในการแสดงความต้องการต่อชนชั�นสูงที�กุมอำนาจอยู่
สิ�งสำคัญที�เป็นยุทธิ์ศูาสตร์ของประชานิยมฝ่่ายซ้าย โดยพิาะโปเดมอสจึงเป็น “การประกอบัสร้างประชาชน”
(construction of a people) เพิื�อเป็นการสร้างแนวหน้าทางการเมืองเพิื�อที�จะมาต่อสู้กับัคู่ขัดแย้งของประชาชน
121
ผ่านสิ�งที�ลาคลาวและ มูฟ เรียกว่า “ห่วงโซ่แห่งความเท่าเทียม” (chains of equivalence) ที�เป็นการรวบัรวม
122
อัตลักษณี์และความต้องการที�หลากหลาย ของของประชาชนด้วยห่วงโซ่มาร้อยเรียงกันให้เป็นอัตลักษณี์ร่วม
(collective identity) หนึ�งเดียว เพิื�อที�จะต่อสู่กับัคู่ตรงข้ามของประชาชน— ชนชั�นสูงที�กุมอำนาจ— แต่ดังที�
ได้กล่าวไปว่าประชาชนนั�นก็มีการให้คุณีค่าต่อการเมืองที�แตกต่างกัน การรวมตัวกันเป็นประชาชนดังที�ได้
กล่าวไปจึงเป็นส่วนที�สำคัญ แต่การประกอบัสร้างของประชาชนนั�นก็อาจนำไปสู่การรวมตัวที�เป็นภัยต่อ
ประชาธิ์ิปไตยเอง ทั�งนี� จึงขึ�นอยู่กับัคุณีค่าของประชาชนที�ถูกประกอบัสร้างขึ�น ว่าเป็นคุณีค่าที�เป็น
123
ประชาธิ์ิปไตยหรือไม่ ดังที�ได้กล่าวไป มูฟ เห็นว่า สิ�งที�แตกต่างระหว่างประชานิยมฝ่่ายซ้ายและขวา จึงอยู่ที�
การสร้างห่วงโซ่แห่งความเท่าเทียมนี� 124
ซึ�งโปเดมอสก็ได้ใช้ห่วงโซ่นี� ตั�งแต่ขบัวนการ 15-M ที�เป็นตัวเริ�มสร้างห่วงโซ่ ประชาชนที�รู้สึกมีความ
ต้องการที�จะเปล่งเสียง ที�ถูกเอาเปรียบั และต้องการเปลี�ยนแปลง จนการก่อตั�งพิรรคเพิื�อทำให้ห่วงโซ่นั�นเกิดเป็น
จุดที�เริ�มไปสู่เป้าหมายที�ชัดเจนมากขึ�น โปเดมอสจึงเป็นตัวนำให้เกิดอัตลักษณี์ร่วมของประชาชน ที�ต้องการให้
เกิดการเปลี�ยนแปลง สำหรับั Errejón มองว่าสเปนนั�นได้เดินทางมาถึงจุดที�สามารถประกอบัสร้างประชาชน เพิื�อ
สร้างแนวหน้าทางการเมือง และแสดงให้เห็นถึงคู่ตรงข้ามใหม่ได้แล้ว เหลือเพิียงแต่การทำให้สิ�งเหล่านี�เป็น
125
เจตจำนงที�จะครองอำนาจนำ และเอาชนะในสนามทางการเมืองเท่านั�น โปเดมอสจึงมีเป้าหมายที�จะต้องรวม
ประชาชนเป็นปึกแผ่น เชื�อมประชาชนให้มีเป้าหมายเหมือนกัน เพิื�อนำไปสู่การเปลี�ยนแปลงระดับัชาติ ซึ�งชาตินั�น
ก็ไม่ได้เป็นสิ�งที�จะถูกผูกขาดโดยฝ่่ายขวาหรือฝ่่ายอนุรักษ์นิยมอีกต่อไป โปเดมอสจึงต้องดึงประชาชนจากฝ่่าย
ตรงข้าม หรือประชาชนที�ยังเชื�อในคู่ตรงข้ามแบับัเดิมเข้ามาให้ได้มากที�สุด เพิราะ “เสียงข้างมาก” นั�น จะต้อง
รวมถึงเสียงของอีกฝ่่ายด้วย 126
119 Fominaya, Democracy Reloaded, 253.
120 Errejón and Mouffe, Podemos, 140–41.
121 Laclau and Mouffe, Hegemony and Socialist Strategy, 127–34.
122 Ernesto Laclau, ‘Populism: What’s in a Name?’, in Populism and the Mirror of Democracy, ed. Francisco
Panizza (London; New York: Verso, 2005), 37–38.
123 Errejón and Mouffe, Podemos, 143–44.
124 Ibid., 144.
125 Ibid., 146.
126 Ibid., 148.