Page 29 - kpiebook66004
P. 29
29
ขั�วเดียวกัน และต่างขั�วออกมามากมาย แต่ด้วยทั�งอุดมการณี์ลึก ๆ ที�แตกต่างกัน ก็ไม่สามารถทำให้ร่วมมือกัน
จัดตั�งรัฐบัาลได้ การเมืองของการจัดตั�งรัฐบัาลก็ดำเนินไปเป็นเวลากว่า 4 เดือน มีการลงคะแนนเสียงหลายครั�ง
สรุปก็จบัลงด้วยการสามารถจัดตั�งรัฐบัาลของพิรรค PP ด้วยเสียงสนับัสนุน 170 เสียงรับัรอง ต่อ 111 เสียงไม่รับัรอง
งดออกเสียง 68 เสียง และขาดประชุม 1 เสียง ซึ�งพิรรค PSOE เป็นผู้งดออกเสียง
การเกิดขึ�นของโปเดมอสแม้จะไม่ได้เป็นรัฐบัาลในครั�งแรกของการเลือกตั�ง และไม่เพิียงแต่ทำให้การเมือง
ของสเปนนั�นต้องเผชิญกับัความท้าทายเท่านั�น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงการสะท้อนความต้องการของประชาชนผ่าน
ทางการสร้างนโยบัาย ทำให้เห็นถึงการใช้ยุทธิ์ศูาสตร์ของประชานิยมฝ่่ายซ้ายที�ชูเรื�องความมั�นคงของประชาชน
การสนับัสนุนให้มีประชาธิ์ิปไตยทางตรง และมีความเป็นสังคมนิยมประชาธิ์ิปไตยมากขึ�น โดยการเปลี�ยน
เสียงเรียกร้องบันท้องถนนให้เป็นเสียงที�ดัง และได้รับัการรับัฟังในสภา สามารถทำให้เสียงของประชาชนนั�น
มีอำนาจได้จริงผ่านการเมืองแบับัรัฐสภา ซึ�งต่อไปเราจะได้ศูึกษาถึงการก่อตั�งพิรรคภายใต้อุดมการณี์และ
ยุทธิ์ศูาสตร์ของประชานิยมฝ่่ายซ้าย
3.2 การก่อุต์ั�งพรรค จัากการก่อุต์ัวิขอุงประช้านิยมฝ่่ายซ้้าย
63
การก่อตั�งพิรรโปเดมอสนั�น ไม่ได้เป็นผลพิวงที�เกิดขึ�นอย่างตั�งใจของขบัวนการการเคลื�อนไหว 15-M
อย่างไรก็ตามการเกิดขึ�นของพิรรคโปเดมอสนั�น เป็นการยื�นข้อเสนอต่อประชาคมการเมืองสเปนว่า จะเป็น
พิรรคการเมืองในฐานะ “เครื�องมือ” บันฐานของการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน ซึ�งไม่ได้เป็นเพิียง
พิรรคการเมืองแบับัธิ์รรมดาทั�ว ๆ ไป ที�เคยเกิดขึ�นมาก่อน ทั�งในประเทศูสเปน และทั�วโลก แต่เป็นพิรรคการเมือง
ที�เป็นเครื�องมือที�ใช้วิธิ์ีการในการให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ และเป็นศููนย์รวม/เอกภาพิ/ความเป็นอันหนึ�ง
64
อันเดียวกัน อันเป็นการรวมพิลังกันของประชาชนผู้ต่อต้านนโยบัายรักเข็มขัดอย่างเข้มงวด (anti-austerity) ในฝ่่ายซ้าย
65
ถือเป็นการสร้าง “แนวหน้า” ทางการเมือง (political frontier) ของฝ่่ายซ้ายในสเปนในการเมืองรัฐสภา
ไม่เพิียงแต่พิรรคโปเดมอสจะเป็นพิรรคการเมืองใหม่ที�เกิดขึ�นและเติบัโตจนได้เสียงจากการเลือกตั�งทั�ง
ในสภาของสหภาพิยุโรป และสภาผู้แทนของสเปนเองเท่านั�น แต่โปเดมอสใช้โอกาสทางการเมืองนี�ในการ
เปลี�ยนแปลงภูมิทัศูน์ทางการเมืองของสเปนใหม่ จากการเมืองที�มีเพิียงสองขั�วอำนาจถืออำนาจอยู่ มาเป็นการ
66
ขึ�นมามีพิลังของขั�วที�สามเป็นครั�งแรกตั�งแต่เกิดการเปลี�ยนแปลงจากระบัอบัฟรังโก้ ส่งผลให้ไม่สามารถจัดตั�ง
รัฐบัาลในระบับัรัฐสภาได้เป็นเวลานานดังที�ได้กล่าวไป นับัว่าเป็นห้วงเวลาหรือจังหวะของประชานิยม (populist
moment) ที�มาได้ประจบัเหมาะกับัการชุมนุมเรียกร้องของประชาชนเพิื�อต่อต้านวิกฤตของเสรีนิยมใหม่ ที�อาจ
67
มาในรูปแบับัต่าง ๆ เช่น การลดบัทบัาทของรัฐในการควบัคุมกฎเกณีฑ์์ต่าง ๆ ของตลาด (market deregulation)
การแปรรูปให้เป็นเอกชนขององค์กรต่าง ๆ (privatization) หรือการใช้นโยบัายรัดเข็มขัดทางการเงินดังที�ได้กล่าวไป
และด้วยพิรรคนั�นเป็นเครื�องมือที�เกิดขึ�นในระหว่างที�ประชาชนมีความต้องการ พิรรคได้ทำหน้าที�ในการรวบัรวม
ความต้องการของประชาชน และสร้างกลไก/ยุทธิ์ศูาสตร์ในการชิงอำนาจนำของสังคมให้เป็นไปตามความต้องการ
ของประชาชน การเกิดขึ�นของพิรรคโปเดมอสจึงได้ฉกฉวยโอกาสที�มีพิลังทางการเมืองของประชาชนจำนวนมาก
ที�แสดงความต้องการออกมาผ่านทางการชมนุม มาทำการก่อตั�งพิรรคการเมืองเพิื�อช่วงชิงอำนาจนำในระบับัรัฐสภา
63 Cristina Flesher Fominaya, Democracy Reloaded: Inside Spain’s Political Laboratory from 15-M to Podemos:
Inside Spain’s Political Laboratory from 15-M to Podemos (New York, NY: Oxford University Press, 2020), 221.
64 Ibid.
65 Mouffe, For a Left Populism, 20–21.
66 Fominaya, Democracy Reloaded, 222.
67 Mouffe, For a Left Populism, 10–11.