Page 14 - kpiebook66004
P. 14
14
อันเป็นส่วนหนึ�งในภาคปฏิิบััติที�ผู้อยู่ในเหตุการณี์สามารถมีประสบัการณี์ถึง ไม่ว่าจะเป็นความขัดแย้งของการ
ครอบัครองปัจจัยการผลิต ความขัดแย้งภายในกลุ่มผลประโยชน์ทางการเมืองต่าง ๆ หรือความขัดแย้งภายใน
อุดมการณี์ที�คอยกำกับัแบับัแผนความสัมพิันธิ์์ของผู้คนในสังคมขณีะนั�น ฯลฯ 9
ข้อวิเคราะห์ของอัลธิ์ูแซร์ที�มุ่งนำเสนอความลุ่มลึกในมรรควิธิ์ีทางการวิเคราะห์ของมาร์กซ์ด้วยการปฏิิเสธิ์
ลักษณีะแบับัเศูรษฐกิจกำหนดที�ลดทอนความขัดแย้งทางการเมืองให้กลายเป็นเพิียงความขัดแย้งจากการถือครอง
ปัจจัยการผลิตแต่เพิียงอย่างเดียวนั�น ถือเป็นข้อวิเคราะห์สำคัญที�กำหนดรากฐานทางทฤษฎีที�ลาคลาวจะใช้เป็น
จุดตั�งต้นในการพิัฒนาแนวทางการวิเคราะห์ของตนต่อมา เพิราะนอกจากจะท้าทายมรรควิธิ์ีของลัทธิ์ิมาร์กซ์ดั�งเดิม
ซึ�งผูกโยงความขัดแย้งทุกอย่างว่ามีต้นตอมาจากปัจจัยทางเศูรษฐกิจแล้ว ข้อวิเคราะห์ดังกล่าวยังชักนำให้ลาคลาว
หันมาสนใจการทำงานของอุดมการณี์ ซึ�งมีไวยากรณี์เฉพิาะ เป็นเอกเทศูจากความขัดแย้งในการครอบัครอง
ปัจจัยต่าง ๆ ทางเศูรษฐกิจ นั�นก็คือ กลไกการเปลี�ยนผู้คนให้กลายเป็นองค์ประธิ์าน (subject) ผู้เป็นหุ่นเชิดที�
สมยอมกับักระบัวนการกดขี�ต่าง ๆ ด้วยถูกทำให้มีสำนึกอันผิดพิลาด (misrecognition) ว่ากำลังดำรงชีวิตภายใต้
ความสัมพิันธิ์์ทางสังคมที�ถูกต้องเหมาะสม ทั�ง ๆ ที�แท้จริงแล้วความสัมพิันธิ์์ดังกล่าวคือความสัมพิันธิ์์อันไม่เท่าเทียม
ที�ตนเองเป็นฝ่่ายที�ถูกกดขี�ขูดรีด 10
กระนั�น แม้อาจได้ชื�อว่าเป็นผู้บัุกเบัิกมรรควิธิ์ีของการศูึกษาอุดมการณี์โดยไม่ตกไปอยู่ภายใต้กำกับัจาก
ความขัดแย้งทางเศูรษฐกิจ แต่ฐานคิดของอัลธิ์ูแซร์ก็ยังคงไม่สามารถหลุดออกจากอิทธิ์ิพิลทางความคิดที�ให้
ความสำคัญกับัปัจจัยทางเศูรษฐกิจได้อยู่ดี ดังที�ลาคลาวได้วิจารณี์ว่าแม้มรรควิธิ์ีของอัลธิ์ูแซร์อาจเป็นมรรควิธิ์ีที�
มุ่งเน้นความเป็นเอกเทศูในไวยากรณี์การทำงานของกลไกทางอุดมการณี์ แต่มรรควิธิ์ีดังกล่าวก็กลับัมีขีดจำกัด
ทางทฤษฎีที�จัดวางให้ไวยากรณี์ของอุดมการณี์ยังคงเป็นส่วนหนึ�งภายในวิถีการผลิตที�กำหนดความขัดแย้งทาง
11
เศูรษฐกิจระหว่างชนชั�น ไวยากรณี์ของอุดมการณี์ตามแนวทางการวิเคราะห์แบับัอัลธิ์ูแซร์ (เมื�อพิิจารณีาจาก
สายตาของลาคลาว) จึงเป็นไวยากรณี์ที�ถูกกำกับัผ่านการดำรงอยู่ของชนชั�น ราวกับัว่าการดำรงอยู่ของชนชั�น
เป็นการดำรงอยู่ตามธิ์รรมชาติที�คอยกำหนดเนื�อหาของอุดมการณี์ตลอดจนอัตลักษณี์ของผู้ที�ตกอยู่ภายใต้
อุดมการณี์ดังกล่าว นั�นจึงไม่แปลกที�แม้จะยอมรับัว่าได้รับัอิทธิ์ิพิลจากอัลธิ์ูแซร์ แต่ลาคลาวก็ยังคงมองเห็น
12
ขีดจำกัดทางทฤษฎีในมรรควิธิ์ีที�อัลธิ์ูแซร์ใช้เพิื�อศูึกษากลไกการทำงานของอุดมการณี์ ขีดจำกัดซึ�งก็คือการยึดเอา
ปัจจัยทางเศูรษฐกิจมาเป็นเงื�อนไขตั�งต้นในการทำงานของอุดมการณี์ จนบัดบัังศูักยภาพิของมรรควิธิ์ีดังกล่าว
ที� (สำหรับัลาคลาวแล้ว) จะไม่ใช่อะไรเลยนอกจากไวยากรณี์ทางการเมือง (political logics) ซึ�งเป็นไวยากรณี์
ที�มิเพิียงแต่ควรเป็นอิสระจากการกำหนดของปัจจัยทางเศูรษฐกิจ แต่ยังมีบัทบัาทสำคัญในการก่อรูปของสำนึก
และอัตลักษณี์ทางการเมืองให้กับับัุคคลต่าง ๆ 13
9 Louis Althusser, “Contradiction and Overdetermination: Notes for an Investigation”, in For Marx (London:
Verso, 2005), pp.89-115.
10 ดูตัวอย่างการวิเคราะห์อุดมการณี์ที�ลาคลาวประยุกต์ใช้แนวทางของอัลธิ์ูแซร์ได้ใน Ernesto Laclau, “Fascism and Ideology”,
in Politicsand Ideology in Marxist Theory (London: Verso, 1979), pp.81-142 สำหรับัการวิเคราะห์อุดมการณี์ในแบับัของ
อลัธิ์ูแซร์ดูเพิิ�มเติมได้ใน Louis Althusser, On the Reproduction of Capitalism: Ideology and Ideological State Apparatuses.
G.M. Goshgarian, Translated (London: Verso, 2014), pp. 256-266.
11 Ernesto Laclau, The Rhetorical Foundations of Society (London: Verso, 2014), p.5.
12 Laclau, “Fascist and Ideology”, pp. 104-106.
13 Laclau, The Rhetorical Foundations of Society, p.5.