Page 12 - kpiebook66004
P. 12

12



                                                               3
            ให้สอดคล้องไปกับัสถานการณี์และความจำเป็นของยุคสมัย  คำว่าหลังลัทธิ์ิมาร์กซ์ จึงไม่ควรถูกเข้าใจว่าเป็นการ
            ทอดทิ�งหรือปฏิิเสธิ์ลัทธิ์ิมาร์กซ์ แต่ควรได้รับัความเข้าใจว่าเป็นหนึ�งในความพิยายามของผู้ที�เติบัโตภายใต้
            ลัทธิ์ิมาร์กซ์เองที�ต้องการปรับัเปลี�ยนและทำให้แนวคิด/ทฤษฎีของลัทธิ์ิมาร์กซ์ยังทันสมัยใช้การได้ในยุคของตน

                   ด้วยเหตุนี� การทำความเข้าใจรากฐานทางความคิดและจุดยืนซึ�งตั�งคำถามจนนำไปสู่การบัุกเบัิกทฤษฎี

            การเมืองแบับัหลังลัทธิ์ิมาร์กซ์ของลาคลาวและมูฟ จึงไม่อาจแยกขาดจากการทำความเข้าใจบัริบัทของยุคสมัยที�

            กำกับัเส้นขอบัฟ้าความคิดของทั�งคู่ โดยเฉพิาะบัริบัททางการเมืองซึ�งผลให้ทั�งลาคลาวและมูฟ มองเห็นขีดจำกัด

            ทางทฤษฎีของลัทธิ์ิมาร์กซ์ทีไม่สามารถตอบัสนองไปกับัสถานการณี์ทางการเมืองในขณีะนั�นได้ โดยสถานการณี์
            ทางการเมืองดังที�ว่านี�ก็คือความไร้น�ำยาของฝ่่ายซ้ายในการผนวกและประสานความไม่พิอใจของผู้คนทั�ว ๆ ไป

            ในสังคมการเมืองเพิื�อขับัเคลื�อนขบัวนการที�มุ่งล้มล้างระบัอบัการเมืองอันไม่เป็นธิ์รรมภายใต้การนำของพิวกตน

            สำหรับัลาคลาวแล้ว ความไร้น�ำยาดังกล่าวจะปรากฏิให้เห็นเป็นรูปธิ์รรมผ่านประสบัการณี์อันล้มเหลวของตัวเขา
            ในฐานะอดีตนักกิจกรรมชาวอาร์เจนติน่าผู้เป็นส่วนหนึ�งของขบัวนการเคลื�อนไหวปีกซ้ายแห่งพิรรคสังคมนิยม

            ฝ่่ายซ้ายแห่งชาติ (El Partido Socialista de la Izquierda Nacional: PSIN) ในช่วงทศูวรรษที� 1960 ซึ�งแม้

            อาจมีเป้าหมายที�มุ่งปลดปล่อยประเทศูอาร์เจนติน่าจากระบัอบัทุนนิยมที�กดขี�และเป็นต้นตอความของเหลื�อมล�ำ

            ภายในประเทศู แต่ก็กลับัไม่สามารถเชื�อมต่อวาระทางการเมืองของพิรรคเข้ากับัความไม่พิอใจต่อระบัอบัดังกล่าว

            ของชาวอาร์เจนติน่า จนเปิดช่องให้ขบัวนการเคลื�อนไหวของชนชั�นกลางภายใต้การนำของนักการเมืองเผด็จการ
            ฝ่่ายขวาอย่างนายฮวน เปรอน (Juan Peron) สามารถช่วงชิงและผนวกความไม่พิอใจข้างต้นเข้ามาเป็นส่วนหนึ�ง

            ในขบัวนการเคลื�อนไหวแบับัอำนาจนิยมของตนได้เป็นผลสำเร็จ 4

                   จริงอยู่ แม้อาจกล่าวได้ว่าประสบัการณี์อันล้มเหลวในฐานะนักกิจกรรมทางการเมืองของลาคลาวดังที�
            กล่าวไปนั�น อาจเป็นผลมาจากบัริบัททางการเมืองเฉพิาะของประเทศูอาร์เจนติน่า ทว่าตัวลาคลาวเองกลับัมองเห็น

            ว่าความล้มเหลวที�ขบัวนการเคลื�อนไหวฝ่่ายซ้ายของตนไม่สามารถประสานและเชื�อมต่อวาระทางการเมืองเข้ากับั

            ความไม่พิอใจต่อระบัอบัทุนนิยมของชาวอาร์เจนติน่าได้นั�น จะมีสาเหตุมาจากความคับัแคบัทางยุทธิ์ศูาสตร์ของ

            ขบัวนการที�ผูกขาดเป้าหมายทางการเมืองของตนเข้ากับัผลประโยชน์ของชนชั�นกรรมาชีพิ จนเพิิกเฉยกลยุทธิ์์

            การรณีรงค์ทางการเมืองเพิื�อสร้างแนวร่วมและผสานความร่วมมือกับัชาวอาร์เจนติน่าที�อาจไม่ได้นิยามตนเองว่า
                                5
            อยู่ในชนชั�นกรรมาชีพิ ในแง่นี� ความล้มเหลวของขบัวนการเคลื�อนไหวฝ่่ายซ้ายในอาร์เจนติน่า (ตามที�ลาคลาว
            มีประสบัการณี์ตรง) จึงมิเพิียงแต่เป็นผลจากลักษณีะเฉพิาะภายใต้บัริบัทของสังคมการเมืองอาร์เจนติน่าเท่านั�น

            หากแต่ยังเป็นภาพิสะท้อนถึงปัญหาทางทฤษฎีของลัทธิ์ิมาร์กซ์ซึ�งคอยกำหนดแนวทางยุทธิ์ศูาสตร์การเคลื�อนไหว
            ของพิรรคการเมืองฝ่่ายซ้ายในขณีะนั�น นั�นก็คือการยึดเอาประโยชน์ของชนชั�นกรรมาชีพิเป็นแกนกลางภายใต้

            แนวทางการวิเคราะห์แบับัเศูรษฐกิจกำหนด (economic determinism) ที�อาศูัยความขัดแย้งระหว่างชนชั�นจาก

            ความสัมพิันธิ์์บันการถือครองปัจจัยการผลิตมาเป็นตัวกำกับัรูปแบับัและแนวทางในการเคลื�อนไหว  ดังที�ลาคลาว
                                                                                                6


            3  Ernesto Laclau, “Building a New Left”. In New Reflections on the Revolution of Our Time (London: Verso,
            1990), p.179
            4  Ernesto Laclau, “Theory, Democracy, and Socialism”. In New Reflections on the Revolution of Our Time, pp.199-200.
            5  Ibid, p.199.
            6  Ibid.
   7   8   9   10   11   12   13   14   15   16   17