Page 226 - kpiebook65072

225

ในการทบทวนแนวปฏิบัติของรัฐ อนุสัญญา CAT เน้นที่การปรับปรุง
และพัฒนาแนวปฏิบัติในการไต่สวนซึ่งสอดคล้องกับคำาจำากัดความ “การทรมาน”

เพราะโดยส่วนใหญ่แล้ว การทรมานมักเกิดขึ้นระหว่างการไต่สวนโดยเจ้าพนักงาน
ของรัฐเพื่อความมุ่งประสงค์ที่จะให้ได้มาซึ่งข้อมูลหรือคำาสารภาพจากบุคคล

428
ที่ถูกทรมาน ทั้งนี้ การที่อนุสัญญา CAT กำาหนดให้รัฐภาคีจะต้องดำาเนินการ
“ทบทวนอย่างเป็นระบบ” ซึ่งมาจากภาษาอังกฤษคำาว่า “systematic review”
เกี่ยวกับแนวปฏิบัติในการไต่สวนก็เพื่อให้รัฐภาคีจะต้องดำาเนินการดังกล่าว

อย่างจริงจัง ดังนั้น การดำาเนินการที่เพียงแค่ออกกฎและคำาสั่งเกี่ยวกับ
วิธีการไต่สวนที่ห้ามการกระทำาทรมานหรือการปฏิบัติอย่างโหดร้าย ไร้มนุษยธรรม

หรือยำ่ายีศักดิ์ศรีจึงไม่เพียงพอ หากแต่รัฐภาคีจะต้องจัดให้การติดตาม
การดำาเนินการให้เป็นไปตามกฎและคำาสั่งเช่นว่าด้วย และหากพบการกระทำาผิด
รัฐจะต้องมีมาตรการ กลไกและขั้นตอนเพื่อแก้ไขกฎและคำาสั่งเช่นว่าอย่างเป็นระบบ

ในอนาคตด้วย
429
ในขณะที่อนุสัญญา CED เน้นที่การปรับปรุงและพัฒนาแนวปฏิบัติ
เพื่อสนับสนุนให้เจ้าพนักงานของรัฐที่พบหรือได้รับรายงานข้อเท็จจริงและ
พิจารณาแล้วเห็นว่ามีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ามีการกระทำาให้บุคคลสูญหายเกิดขึ้น

สามารถรายงานต่อผู้บังคับบัญชาได้ เพราะโดยส่วนใหญ่แล้ว การกระทำาให้บุคคล
สูญหายมักเกิดขึ้นจากการกระทำาของผู้บังคับบัญชาที่อยู่ในสายการบังคับบัญชา

ที่สูงกว่าของเจ้าพนักงานของรัฐที่มีข้อมูล ดังนั้น อนุสัญญา CED จึงได้กำาหนดให้
รัฐภาคีจะต้องดำาเนินมาตรการที่จำาเป็นในการสร้างหลักประกันและความคุ้มครอง
ให้แก่เจ้าพนักงานของรัฐภายหลังจากที่ได้มีการรายงานข้อมูลต่อผู้บังคับบัญชา

หรือองค์กรที่มีอำานาจ เพื่อสร้างความมั่นใจ และสนับสนุนให้เจ้าพนักงานของรัฐ
ผู้นั้นตัดสินใจที่จะรายงานมูล เพื่อให้การป้องกันและปราบปรามการกระทำาให้

บุคคลสูญหายมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 430

428 Supra Note 141, CAT Handbook, p. 143.
429 Ibid, CAT Handbook, p. 144.
430 Supra Note 15, p. 265.

inside_ .indd 225 14/9/2565 11:15:06