Page 153 - kpiebook65072
P. 153
152 บทบัญญัติทางกฎหมาย เพื่อการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำาให้บุคคลสูญหาย
มีการกระทำาผิดเกิดขึ้น เจ้าพนักงานของรัฐในทุกขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรม
จะต้องพิจารณาว่าข้อมูลนั้นเป็นข้อมูลหรือคำาให้การที่ได้มาจากการทรมาน
หรือไม่ และจะต้องปฏิเสธไม่รับฟังคำาให้การที่ได้ให้โดยเป็นผลจากการทรมาน
โดยหลักการนี้สอดคล้องกับกติกา ICCPR อีกด้วย ทั้งนี้ การกำาหนดพันธกรณี
282
มีวัตถุประสงค์หลัก 2 ประการ คือ ประการแรก คำาให้การใด ๆ ที่ได้มาจาก
การทรมานบุคคลย่อมมีนำ้าหนักที่รับฟังได้น้อยหรือรับฟังไม่ได้เลยและขัดต่อ
หลักการพิจารณาคดีอย่างเป็นธรรม (Fair Trial) เพราะมีความเป็นไปได้อย่างยิ่ง
ที่ผู้ให้การซึ่งถูกทรมานอยู่นั้น มีแนวโน้มที่จะรับสารภาพ ซัดทอด หรือให้การใด ๆ
ตามที่ผู้ทรมานต้องการให้กล่าวเพื่อให้ตนพ้นจากการถูกทรมานโดยเร็ว และ
ประการที่สอง เมื่อคำาให้การที่ได้ให้โดยเป็นผลจากการทรมานเป็นคำาให้การ
ที่ยกขึ้นอ้างเป็นหลักฐานในการดำาเนินคดีไม่ได้ ก็จะทำาให้การทรมานเพื่อให้ได้
คำาให้การนั้นไม่เกิดประโยชน์ใด ๆ และยังเป็นผลโดยอ้อมที่จะป้องกันมิให้เกิด
การกระทำาทรมานได้อีกทางหนึ่งด้วย 283
อย่างไรก็ดี มีข้อยกเว้นเกี่ยวกับการพิจารณาคำาให้การที่ได้ให้
โดยเป็นผลจากการทรมานว่าคำาให้การเช่นว่านี้ อาจนำามาอ้างเป็นหลักฐาน
ในการดำาเนินคดีได้ในกรณีเดียว คือ เมื่อนำามาใช้เป็นหลักฐานเพื่อผูกมัดบุคคล
ที่ถูกกล่าวหาว่าได้กระทำาการทรมานในฐานะที่เป็นหลักฐานว่าคำาให้การนั้น
ได้มาโดยการทรมาน ทั้งนี้ เป็นเพราะการพิจารณาคำาให้การเพื่อวัตถุประสงค์นี้
ไม่ได้พิจารณาว่าคำาให้การมีเนื้อหาสาระที่เป็นจริงหรือไม่ แต่เป็นการพิจารณาว่า
ได้มีการทรมานเกิดขึ้นจริงหรือไม่ 284
282 Supra Note 11, ICCPR, Art. 7.
283 Supra Note 141, CAT Handbook, p. 148.
284 Ibid.
inside_ .indd 152 14/9/2565 11:15:04