Page 457 - kpiebook65063
P. 457
ความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐที่ทุกคนสามารถเข้าถึงการใช้นวัตกรรมอย่างทั่วถึง เข้าใจ และ
เข้าถึงแนวทางในการพัฒนาและการดำเนินงานและสามารถทำเองได้ เกิดผลสัมฤทธิ์เชิงประจักษ์
การทำโครงการระบบธนาคารน้ำใต้ดินแบบพอเพียง มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ชุมชนท้องถิ่น
ท้องถิ่นกับภารกิจที่ท้าทายหลังวิกฤตโควิด-19 น้ำหลาก โดยสนับสนุนให้ชุมชนท้องถิ่นมีรายได้เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้เกิดเศรษฐกิจชุมชนที่เข้มแข็ง
มีน้ำสะอาด เพื่ออุปโภค บริโภค ทำการเกษตรที่เพียงพอ ป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในฤดู
รวมถึงแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำในฤดูแล้ง ซึ่งเป้าหมายหลักของการพัฒนาระบบธนาคารน้ำใต้ดิน
แบบพอเพียงนั้น คือ การป้องกัน บรรเทา แก้ไขปัญหาน้ำท่วม น้ำขัง ภัยแล้ง ซึ่งเกิดขึ้นเป็นประจำ
ทุก ๆ ปี นับวันยิ่งรุนแรงขึ้นเนื่องจากสภาพปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศของโลก
ผลประโยชน์ทางตรงที่ได้รับคือประชาชนมีน้ำเพียงพอสำหรับอุปโภค บริโภค สำหรับประกอบ
อาชีพ สามารถลดความเสียหายจากน้ำท่วม-ภัยแล้ง ส่งผลให้เกิดความมั่นคงเกี่ยวกับการดำรงชีพ
มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
โครงการระบบธนาคารน้ำใต้ดินแบบพอเพียงนี้ สามารถแบ่งระบบได้เป็น 2 ระบบ คือ
ธนาคารน้ำใต้ดินระบบเปิด และธนาคารน้ำใต้ดินระบบปิด
ธนาคารน้ำใต้ดินระบบเปิด
ส่วนที่ บันทึกเรื่องเด่นรางวัลพระปกเกล้า: ท้องถิ่นกับบริการสาธารณะ
ธนาคารน้ำใต้ดินระบบเปิด หมายถึง การขุดบ่อเพื่อสร้างแหล่งกักเก็บน้ำในระบบธรรมชาติ
ให้ได้มีความลึกถึงชั้นหินอุ้มน้ำ (Aquifer) โดยขนาดรูปร่างของบ่อต้องออกแบบเปลี่ยนแปลง
ไปตามสภาพบริบทตามสภาพภูมิศาสตร์ของพื้นที่ โดยวางตำแหน่งบ่อให้เป็นกลุ่มและเครือข่าย
จะวางในร่องน้ำและพื้นที่รับน้ำที่ราบลุ่ม ต้องขุดให้เป็นกลุ่ม ๆ ละ 3-4 บ่อ ระยะห่างประมาณ
1,500 เมตร เพื่อให้เป็นบ่อน้ำที่ใช้ตอบโจทย์การบริหารจัดการปัญหาบ่อน้ำบาดาลที่แห้ง
เป็นการเติมน้ำลงใต้ดินและเพิ่มปริมาณน้ำใต้ดินให้เพียงพอต่อการอุปโภค บริโภค และใช้ทำ
การเกษตรในฤดูแล้งสามารถนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ (องค์การบริหาร
ส่วนตำบลเก่าขาม, 2561)
การออกแบบและวางตำแหน่งบ่อจำเป็นต้องทำให้เกิดรูปแบบที่มีความเชื่อมโยงกัน
ตามบริบทของพื้นที่ การขุดให้ลึกถึงหินชั้นอุ้มน้ำ (Aquifer) มีวิธีการวางตำแหน่งของบ่อ เช่น
บ่อชะลอน้ำ บ่อตกตะกอน บ่อรับน้ำ และบ่อเติมน้ำลงใต้ดินมีจุดส่งน้ำและจุดรับน้ำให้เชื่อมโยงกัน
ทำให้สามารถกระจายน้ำใต้ดินในพื้นที่ได้อย่างครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ
การวิเคราะห์สภาพปัญหา ประเทศไทยอยู่ในร่องมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือและ
มรสุมตะวันออกเฉียงใต้มีปริมาณน้ำฝนตลอดปี 1,572.5 มิลลิเมตร ในหมู่บ้านแต่ละแห่งมีพื้นที่
ประมาณ 10 ตารางกิโลเมตร (พื้นที่ 1 ตารางกิโลเมตร มีน้ำฝน 1,572,000 ลูกบาศก์เมตร/ปี)
และพบว่าพื้นที่ของชุมชนจะมีน้ำฝนประมาณ 15,720,000 ลูกบาศก์เมตร/ปี
สถาบันพระปกเกล้า