Page 128 - kpiebook65057
P. 128
ในประเด็นทางเศรษฐกิจ การแผ่ขยายอิทธิพลของทุนขนาดใหญ่ที่เข้ามา
ครอบงำระบบการผลิตอาหารและการทำอาชีพด้านเกษตรกรรมในชนบท ทำให้เกิด
การผูกขาดราคาสินค้าเกษตร ส่งผลต่อรายได้และความมั่นคงของอาชีพเกษตรกร ทั้งนี้
นโยบายพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐที่มุ่งให้ภาคชนบทปลูกพืชเชิงเดี่ยวเพื่อตอบสนอง
ต่อความต้องการของระบบตลาด ส่งผลให้เกษตรกรจำเป็นต้องกู้เงินเพื่อนำมา
ทำการผลิต เช่น การผลิตอ้อย ข้าวโพด มันสำปะหลัง ปาล์ม ยางพารา ซึ่งนำมาสู่
การมีหนี้สินครัวเรือน จากการมีต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ขณะที่รายได้จากผลผลิตขึ้น
กับราคาตลาดที่มีมูลค่าลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประสบปัญหาขาดทุน ผู้คนเริ่มหันหลัง
ให้ภาคเกษตรเพื่อเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมมากขึ้น ภาคชนบทยังได้รับผลกระทบ
จากนโยบายการพัฒนาชนบทที่ทำให้ชนบทเป็นแหล่งสะสมทุนหรือบ่อพักน้ำ (water
reservoir society)โดยรัฐส่งเสริมการลงทุนด้วยการนำเงินทุนไปส่งเสริมเศรษฐกิจ
ชนบท ทว่าเงินทุนที่ไหลลงไปนั้นไม่ได้ถูกนำไปทำให้เกิดการหมุนเวียนในระบบ
เศรษฐกิจของชนบท หากแต่เป็นการออกนโยบายเพื่อนำเงินไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้าน
หรือพักไว้ในชนบทแบบชั่วคราวแล้วใช้กลไกทางเศรษฐกิจดูดเงินเหล่านั้นกลับเข้าสู่
ระบบเศรษฐกิจส่วนกลาง ซึ่งผู้ที่ได้ประโยชน์จากนโยบายดังกล่าวคือกลุ่มนายทุนและ
นักการเมืองที่มีส่วนได้เสียจากนโยบายต่าง ๆ การดำเนินนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจ
ภาคชนบทที่ผ่านมาส่วนใหญ่เป็นการพัฒนาที่พยายามช่วงชิงผลประโยชน์จากชนบท
อาศัยชนบทเป็นบ่อพักน้ำ หรือแหล่งสะสมทุนทำให้เงินลงไปไม่ถึงคนรากหญ้า
อย่างแท้จริง เพราะถูกดูดกลับคืนสู่มือของนายทุนรายใหญ่ ด้วยเหตุนี้ทั้งนโยบาย
ส่งเสริมการปลูกพืชเชิงเดี่ยว และนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจภาคชนบทที่ผ่านมา
จึงส่งผลให้คนในชนบทเกิดปัญหาหนี้สินเพิ่มขึ้น ประชาชนมีรายได้ไม่เพียงพอ
อีกทั้ง การพัฒนาเศรษฐกิจแผนใหญ่ยังเข้าไปทำลายความอุดมสมบูรณ์ทาง
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผ่านการทำเกษตรเชิงเดี่ยวและการใช้สารเคมี
นอกจากนี้การแผ่อิทธิพลเข้าไปของระบบทุนนิยมยังส่งผลต่อความแตกแยกในชุมชน
จากการค้ำประกันเงินกู้ การเป็นหนี้นอกระบบ ทำให้ความไว้วางใจในชนบทลดลง
ในด้านของสุขภาพพบว่า วิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปจากการผลิตเพื่อบริโภค
ในครัวเรือนมาสู่การผลิตเพื่อขาย ทำให้เกิดการพึ่งพากลไกตลาด ฐานทรัพยากร
73