Page 125 - kpiebook65057
P. 125

วัฒนธรรมทางการเมืองของไทยเกิดขึ้นและมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับวัฒนธรรม
             ทางการเมืองที่มีมาก่อน อีกทั้งวัฒนธรรมทางการเมืองมีลักษณะไม่หยุดนิ่งและ
             ลักษณะของวัฒนธรรมบางอย่างก็สืบทอดมาจนถึงปัจจุบันผ่านการศึกษา การสื่อสาร

             การพยายามรักษาวัฒนธรรมแบบอำนาจนิยม หรือวัฒนธรรมแบบอุปถัมภ์ เป็นต้น
             (นิธิ เอี่ยวศรีวงศ์, 2554, อ้างใน พระครูวินัยธรจักรี ศรีจารุเมธีญาณ, หน้า 429-430)

             จากผลการศึกษาเกี่ยวกับวัฒนธรรมทางการเมืองไทยนับตั้งแต่การเปลี่ยนแปลง
             การปกครอง พ.ศ. 2475 จนถึงปัจจุบัน (พ.ศ. 2562) พบว่า วัฒนธรรมทาง
             การเมืองไทยยังมีข้อจำกัดอยู่มากและไม่เพียงพอที่จะใช้เป็นปัจจัยในการตอบโจทย์

             การเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาการเมืองของไทยในปัจจุบัน (พระครูวินัยธรจักรี ศรี
             จารุเมธีญาณ, 2561, หน้า 418)


                     ถวิลวดี บุรีกุล (2543) ศึกษาการมีส่วนร่วมของประชาชนในการเลือกตั้ง

             สมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2543 พบความสัมพันธ์ของปัจจัยต่างๆ กับการมีส่วนร่วม
             ทางการเมืองโดยเฉพาะปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง โดยผลการศึกษา

             พบว่าสอดคล้องกับแนวคิดเรื่องการมีส่วนร่วมที่ผู้ชายมักมีส่วนร่วมทางการเมือง
             มากกว่าผู้หญิง ผู้ที่อยู่ในวัยกลางคนมีส่วนร่วมทางการเมืองมากกว่ากลุ่มอายุอื่นๆ
             การมีส่วนร่วมยังมีความแตกต่างกันไปตามระดับการศึกษา อาชีพ ถิ่นที่อยู่อาศัย

             และการศึกษาครั้งนี้พบว่าคนกรุงเทพทั้งที่อาศัยอยู่ในเมืองและชานเมืองมักมีระดับ
             การมีส่วนร่วมทางการเมืองต่ำกว่าชนที่อาศัยอยู่ในจังหวัดอื่นๆ (ถวิลวดี บุรีกุล และ

             รัชวดี แสงมหะหมัด, 2557, หน้า 37)


                     โรเบิร์ต บี อัลบริททัน และถวิลวดี บุรีกุล (2543) ศึกษาเรื่อง “ความต่อเนื่อง
             ของประชาธิปไตย: การเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2543” พบว่า ผู้ที่อาศัย

             อยู่ในชนบทและมีสถานะทางเศรษฐกิจและสังคมต่ำกว่าจะมีระดับความพึงพอใจ
             ต่อระบอบประชาธิปไตยสูงกว่าผู้ที่อาศัยอยู่ในเขตเมืองและมีสถานะทางเศรษฐกิจ
             และสังคมสูงกว่า  นอกจากนี้คนกรุงเทพมหานคร  มีเกณฑ์์ในการพิจารณา

             เลือกผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ  โดยที่
             คนกรุงเทพมหานครจะใช้ปัจจัยเรื่อง “ความสามารถและความซื่อสัตย์” ของผู้สมัคร





                                               70
   120   121   122   123   124   125   126   127   128   129   130