Page 63 - kpiebook65055
P. 63

63







                            ในระดับจังหวัดหรือในระดับของการปกครองส่วนท้องถิ่น ปัจจุบันมีกฎหมายที่รองรับ

                  การก�าหนดแผนในระดับจังหวัด คือ มาตรา 38 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม
                  แห่งชาติ พ.ศ. 2535 ที่ได้ก�าหนดสาระส�าคัญต่างๆ ที่จะต้องปรากฏอยู่ในแผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการ

                  คุณภาพสิ่งแวดล้อมในระดับจังหวัดที่จะเสนอต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ การจัดท�าแผน
                  ปฏิบัติการดังกล่าว ควรให้ความส�าคัญเป็นพิเศษกับบริบทของจังหวัดนั้นๆ และควรให้ประชาชนเข้ามามีส่วน

                  ในการก�าหนดนโยบายของตนเองได้อย่างเปิดกว้างมากยิ่งขึ้น กล่าวคือ ความต้องการของประชาชน
                  ในพื้นที่ควรต้องถูกสะท้อนอยู่ในนโยบายและแผนปฏิบัติการด้านคุณภาพอากาศ โดยมีหน่วยงานรัฐ

                  คอยสนับสนุนข้อมูลทางด้านวิชาการ ในที่นี้ควรให้เป็นอ�านาจหน้าที่ของส�านักงานนโยบายและแผน
                  ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) แต่การตัดสินใจในขั้นสุดท้ายนั้น ควรยึดความเห็นของทุกภาคส่วน

                  ในพื้นที่เป็นส�าคัญ ในการนี้ กฎหมายควรก�าหนดขอบเขตทั้งทางด้านเนื้อหาขั้นต�่าที่จะต้องบรรจุลงใน
                  นโยบายและแผน วิธีการได้มาซึ่งนโยบายและแผนที่มีความชัดเจน ไม่ยุ่งยากซับซ้อน และประชาชน

                  จะต้องได้รับข้อมูลอย่างครบถ้วนรอบด้านก่อนการเข้าร่วมในการจัดท�านโยบายและแผน และที่ส�าคัญคือ
                  ควรออกแบบกระบวนการในการแก้ไขและเปลี่ยนแปลงนโยบายและแผนให้มีความยืดหยุ่นและทันสมัยอยู่

                  เสมอ ไม่ควรเป็นการวางแผนในระยะยาวจนเกินไป เนื่องจากบริบททางด้านเทคโนโลยี เศรษฐกิจ และ
                  สังคม ในปัจจุบันนั้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่ภาวะมลพิษทางอากาศนั้น

                  จะน�าไปสู่ปัญหาอื่นๆ ในระดับระหว่างประเทศ เช่น ปัญหาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
                  ก็ย่อมต้องค�านึงถึงกฎหมายระหว่างประเทศ และมติของที่ประชุมรัฐภาคีความตกลงระหว่างประเทศ

                  ที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เช่น ความตกลงปารีส ค.ศ. 2015 ที่จัดขึ้นเป็นประจ�า
                  ในทุกปี


                            ประการสุดท้าย ควรออกแบบนโยบายและแผนที่มีความเชื่อมโยงบูรณาการกับภาคราชการ

                  ต่างๆ ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมหรือการเผชิญเหตุฉุกเฉินในกรณีที่มีภัยพิบัติทางด้าน
                  อากาศ ทั้งนี้ เพื่อการวางแผนด้านงบประมาณของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป เช่น การบูรณาการระหว่าง

                  นโยบายและแผนที่จัดท�าโดยคณะกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติกับแผนปฏิบัติการ
                  เพื่อการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมในระดับจังหวัดหรือแผนปฏิบัติการเพื่อป้องกันหรือแก้ไขอันตราย

                  อันเกิดจากการแพร่กระจายของมลพิษหรือภาวะมลพิษ เป็นต้น นอกจากนั้น ควรพิจารณาถึงความร่วมมือ
                  ของหน่วยงานที่สามารถสนับสนุนเทคโนโลยีดิจิทัลหรือวิทยาศาสตร์ทางด้านการเฝ้าระวังภาวะมลพิษ

                  ทางอากาศที่จะต้องร่วมหารือเพื่อก�าหนดเป็นแผนและนโยบายของหน่วยงานดังกล่าว อีกทั้ง ควรจัดท�า
                  นโยบายและแผนร่วมกับหน่วยงานด้านสาธารณสุขเพื่อก�าหนดวิธีการปฏิบัติหรือทิศทางของการให้

                  ความช่วยเหลือและรักษา รวมไปถึงการป้องกันและให้ความรู้ด้านสุขภาพกับประชาชนเกี่ยวกับอันตราย
                  และวิธีการป้องกันตนเองจากภาวะมลพิษทางอากาศ ในด้านเศรษฐกิจ การเงิน การคลัง ควรจัดท�านโยบาย

                  และแผนร่วมกับหน่วยงานด้านการเก็บภาษีน�าเข้าสินค้าที่มีกระบวนการผลิตที่สร้างมลพิษทางอากาศสูง
                  หรือการใช้มาตรการทางภาษีเพื่อสร้างแรงจูงใจการลดการปล่อยมลพิษทางอากาศ ซึ่งจะต้องก�าหนดให้

                  ชัดเจนตั้งแต่เริ่มต้นในนโยบายเพื่อถ่ายทอดลงสู่การปฏิบัติ ด้วยการออกเป็นกฎหมายต่อไป
   58   59   60   61   62   63   64   65   66   67   68