Page 211 - kpiebook65043
P. 211

211
                                                                                   สรุปการประชุมวิชาการ
                                                                               สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 23  211
                                                                                   ประชาธิปไตยในภูมิทัศน์ใหม่

                     1) ระบบราชการเป็นระบบที่ค่อนข้างปิด และส่วนหนึ่งที่ทำให้ระบบราชการ
             มีความเป็นระบบปิด ก็เนื่องจากมีกฎหมายและกฎเกณฑ์ในการปฏิบัติที่ครอบเอาไว้
             หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ การปฏิบัติงานไม่สามารถทำนอกกฎระเบียบที่วางไว้ได้


                     2) ระบบการทำงานของราชการมีลักษณะเป็นแบบแบ่งส่วนกันทำและทำในลักษณะ
             “ของใครของมัน” (Silo) ขาดการบูรณาการหรือคิดร่วมกัน ทั้งที่ในการดำเนินการหลายอย่าง
             โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การบริหารจัดการในภาวะวิกฤต ต้องอาศัยความจำเป็นในการบูรณาการ
             ร่วมกันเพื่อให้การบริหารจัดการมีประสิทธิภาพ


                     ทั้งนี้ อ้อนฟ้าได้เน้นย้ำว่าปัญหาทั้งสองประการข้างต้นของฝ่ายปฏิบัติการ เกิดขึ้น
             เนื่องจาก ฝ่ายปฏิบัติการจำเป็นจะต้องทำงานบนกรอบของกฎหมาย ถ้าหากไม่ทำตามแล้ว
             อาจมีความผิด จนการทำงานกลายเป็น “ทำตามกฎหมาย” และไม่นึกถึง “เป้าหมาย” ที่แท้จริง
             ที่สำคัญ กฎหมายที่กำหนดความผิดในปัจจุบันมีมากมาย เนื่องจากกลัวว่าจะเกิดการทุจริต

             ทำให้ฝ่ายปฏิบัติการเองไม่กล้าคิดอะไรใหม่ ๆ เพราะกลัวถูกตรวจสอบ หรือแม้กระทั่งกลายเป็น
             ผู้กระทำความผิดไปถ้าหากเกิดทำอะไรนอกกรอบกฎหมาย

                    ๏  ความท้าทายของการบริหารจัดการภาครัฐต่อระบบการทำงานของรัฐบาล
             ในภาวะวิกฤต


                     ทั้งวสันต์ และอ้อนฟ้า ได้ชี้ให้เห็นถึงความท้าทายต่อการบริหารจัดการภาครัฐ
             ที่ค่อนข้างครอบคลุมไปถึงการบริหารจัดการในกรณีปกติด้วย อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่เกิด
             ภาวะวิกฤตนั้น อาจทำให้เกิดความต้องการในการบริหารจัดการที่แตกต่างจากการบริหาร
             จัดการในภาวะปกติ เนืื่องจากภาวะวิกฤตนั้นเป็นสถานการณ์ที่ต้องการความเร่งด่วน

             ในการบริหารจัดการดังที่ได้กล่าวไว้แล้วตอนต้น ทั้งนี้ วิกฤตโรคระบาดที่เกิดขึ้นและกินเวลา
             ยาวนานมากกว่า 2 ปีที่ผ่านมา ได้สะท้อนให้เห็นความบกพร่องของการบริหารจัดการภาครัฐ
             ในภาวะวิกฤต และในเมื่อวิกฤตโรคระบาดอาจไม่ใช่วิกฤตสุดท้ายที่ประเทศไทยจะต้องเผชิญ

             ดังนั้น การถอดบทเรียนเกี่ยวกับความท้าทายต่อการบริหารจัดการภาครัฐในภาวะวิกฤตจึงมี
             ความสำคัญไม่แพ้กัน โดย กอบศักดิ์ ภูตระกูล ได้ชี้ิให้เห็นว่าจากวิกฤตโรคระบาดที่ผ่านมา
             2 ปีนั้น ทำให้เห็นถึงปัญหาในการบริหารจัดการภาครัฐในวิกฤตโรคระบาด ดังนี้

                     1) ปัญหาเกี่ยวกับวิธีคิด (mindset) ของภาครัฐ นั่นคือ แม้ว่าจะมีการพูดถึงกันมา

             ตลอดว่าภาวะวิกฤตนั้นมีความแตกต่างจากภาวะปกติ และต้องการการบริหารจัดการที่มี
             ความแตกต่างจากการบริหารจัดการในภาวะปกติก็ตาม แต่ในมุมมองของกอบศักดิ์แล้ว
             เห็นว่าที่ผ่านมารัฐบาลไทยจัดการกับภาวะวิกฤตเหมือนกำลังเผชิญกับสถานการณ์ปกติ
             ทำให้การจัดการหลาย ๆ เรื่องมีความล่าช้ากว่าเอกชน                                          สรุปการประชุมกลุ่มย่อยที่ 4


                     2) ปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของการเมือง โดยกอบศักดิ์เห็นว่าการจัดการหลายเรื่องมี
             ความเป็นการเมืองมากเกินไป และมีลักษณะที่มีวาระซ่อนเร้น (hidden agenda) เช่น
   206   207   208   209   210   211   212   213   214   215   216