Page 150 - kpiebook65043
P. 150
150 สรุปการประชุมวิชาการ
สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 23
ประชาธิปไตยในภูมิทัศน์ใหม่
การบริหารราชการแผ่นดินของประเทศไทยยังมีลักษณะเป็นแบบรวมศูนย์เหมือนเดิม
ก็ย่อมต้องมีปัญหาตามมาแน่นอน
ดังนั้น เพื่อแก้ปัญหาและหาทางออกสำหรับความท้าทายของประเทศไทย ก็จะต้อง
ยอมรับกันเสียก่อนว่าถ้าต้องการเดินไปข้างหน้าในด้านเศรษฐกิจ หรือการเมือง ก็จำเป็นต้องมี
“การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่” และแน่นอนว่าสิ่งที่กลุ่มคนรุ่นใหม่เห็นก็คือโครงสร้างและระบบ
ที่เป็นอยู่ในปัจจุบันไม่สามารถตอบสนองความคาดหวังและความต้องการในอนาคตได้
จึงเป็นที่มาของข้อเรียกร้องมากมายที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน อีกทั้งเมื่อพิจารณารัฐธรรมนูญ
แห่งราชอาณาจักรไทยฉบับปัจจุบัน (พ.ศ. 2560) เทียบกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
พุทธศักราช 2540 และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 แล้ว จะเห็นว่า
มีความถดถอยมาก เพราะทำให้ประชาชนรู้สึกว่าไม่มีสิทธิ์มีเสียงเต็มที่ในการชี้อนาคต
ของประเทศ และรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันยังมีลักษณะเป็นการเขียนบนพื้นฐานของวาระ
ทางการเมือง หรือก็คือ แทนที่จะกำหนดกติกาบนพื้นฐานของหลักการหรือแก้ปัญหาโครงสร้าง
เชิงระบบ กลับเขียนรัฐธรรมนูญเพื่อประโยชน์ของกลุ่มเพื่อให้รักษาอำนาจได้และกีดกัน
คนอีกกลุ่มออกไป ซึ่งทางออกในเรื่องนี้ก็คือเราต้องยอมรับร่วมกันว่า “เราปล่อยให้ประเทศ
เดินไปแบบนี้ไม่ได้”
สิ่งเหล่านี้ถือเป็นความท้าทายที่ทำให้ต้องแสวงหา “สัญญาประชาคม” ฉบับใหม่ที่เกิด
จากฉันทามติ เพื่อเรียกประชาธิปไตยคืนมา และขับเคลื่อนสังคมไทยไปข้างหน้าให้สอดคล้อง
กับความต้องการทางเศรษฐกิจ ซึ่งที่ผ่านมา เราอาจไม่เคยลองหาฉันทามติเพราะเราไม่เคย
ประสบความสำเร็จกับการใช้กลไกในรัฐธรรมนูญตามระบอบประชาธิปไตยมาแก้ไขปัญหา
ความขัดแย้งทางการเมืองที่รุนแรงได้ ทำให้เกิดการฉวยโอกาสของกลุ่มที่ก่อรัฐประหารและ
ดึงอำนาจทางการเมืองกลับไปสู่ฝ่ายอำนาจนิยม และเมื่อมีการกำหนดรัฐธรรมนูญเพื่อเป็น
การอภิปราย เรื่อง “ประชาธิปไตยไทยบนความท้าทายและโอกาส”
กติกาสำหรับกลุ่มบุคคลและป้องกันการเกิดสถานการณ์บางอย่างมากกว่าการเขียนรัฐธรรมนูญ
เพื่อแก้ปัญหาในเชิงหลักการ ก็จะยิ่งทำให้กลุ่มที่แทบไม่ได้มีส่วนร่วมในการกำหนดกติกา
เกิดความไม่พอใจและทำให้ความขัดแย้งรุนแรงยิ่งขึ้นจนไม่สามารถหาฉันทามติได้ ดังนั้น
สิ่งสำคัญก็คือว่า ต้องยอมรับว่าจะต้องมีการเปลี่ยนแปลง และทำให้การเปลี่ยนแปลงนั้น
เกิดขึ้นอย่างราบรื่นที่สุดเท่าที่จะทำได้
จากความท้าทายสู่โอกาสในการปรับภูมิทัศน์ทางการเมืองและ
การพัฒนาประชาธิปไตยประเทศไทย
จากปัจจัยหลายมิติที่ก่อให้เกิดการปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์ทางการเมืองของประเทศไทย
ที่กล่าวมาข้างต้น แม้ว่าทุกปัจจัยจะก่อให้เกิดความท้าทาย แต่ในความท้าทายนั้นก็สร้างโอกาส
ในการทบทวนที่สามารถนำไปสู่การปรับเปลี่ยนมิติต่าง ๆ เพื่อปรับภูมิทัศน์ทางการเมืองไทย
และก่อให้เกิดการพัฒนาประชาธิปไตยที่ยั่งยืนได้ในหลาย ๆ ด้านด้วยกัน