Page 164 - kpiebook65022

ความสัมพันธ์กับค่ามลพิษที่สูงทั้งสามตัวนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐแบบพรรคเดี่ยวมีความสัมพันธ์ทางบวกกับการ
ปลดปล่อยซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (Cao and Ward, 2011) แสดงให้เห็นว่า การที่รัฐมีอ านาจน้อยลงหรือกระจาย

อ านาจ น่าจะส่งผลต่อการจัดการสิ่งแวดล้อมที่ดี ดังที่พบว่า มีความจ าเป็นต้องเน้นการวิเคราะห์การเมือง
สิ่งแวดล้อมในรายภาค (Sectoral) เพราะการวิเคราะห์ภาพใหญ่มักละเลยตัวแปรทางนโยบายที่ส าคัญ
(Doern, 1995) หรือตัวอย่างข้อค้นพบแนวโน้มนโยบายสิ่งแวดล้อมในจีนที่มีทิศทางไปในทางกระจายอ านาจ
มากขึ้น พบว่า นักวางแผนของแต่ละรัฐในจีนต่างหันมาคุ้นเคยกับเครื่องมือกระจายอ านาจไปสู่ภูมิภาค ส่วน

อ านาจของรัฐบาลกลางถูกจ ากัด เมื่อประเด็นสิ่งแวดล้อมได้รับการดูแลโดยท้องถิ่น ซึ่งอาจจะส่งผลให้การ
จัดการด้านสิ่งแวดล้อมของจีนในไม่ช้านี้เป็นไปแบบแนวระนาบมากขึ้น (Eaton and Kostka, 2018) อย่างไรก็ดี
มีข้อค้นพบจากงานวิจัยบางชิ้นว่าการมีความเข้มแข็งของการเคลื่อนไหวทางสิ่งแวดล้อมนั้นอาจจะท าให้มูลค่า
ของการใช้งบประมาณไม่คุ้มค่ากับการแก้ไขปัญหามลพิษ ดังพบว่า การเมืองที่มีความเข้มแข็งในการ

เคลื่อนไหวจะมีการใช้จ่ายทางสิ่งแวดล้อมมากกว่าวิกฤตด้านสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ดี บางโครงการพบว่า การมี
กลุ่มสิ่งแวดล้อมที่เข้มแข็งก็ท าให้การใช้งบประมาณของรัฐบาลสอดรับกับปัญหาวิกฤตทางสิ่งแวดล้อม
(Newmark and Witko, 2007)

นอกจากนี้ ประเด็นมลพิษยังพบอุปสรรคในเชิงกฎหมายที่ปัญหามลพิษเกิดขึ้นล้ าหน้าไปกว่า

ที่นโยบายหรือกฎหมายจัดการได้ทัน ดังพบว่า อุตสาหกรรมที่ก่อให้เกิดไมโครพลาสติกหรือไมโครบีดส์มีการ
ด าเนินงานทางการผลิตที่ล้ าหน้าและไปไกลกว่าที่กฎหมายก าหนด และการต่อกรกับการต่อต้านไมโครพลาสติก
มีเดิมพันสูง เพราะรายได้และการเติบโตของอุตสาหกรรมนี้สูง หากรัฐบาลมีการออกกฎหรือข้อตกลงเพื่อกับ
อุตสาหกรรม เพื่อจะไม่ท าให้เกิดมลพิษจากไมโครพลาสติกหรือให้หันไปใช้พลาสติกที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ
(Dauvergne, 2018) หรือการบังคับใช้กฎหมายที่ไม่มีประสิทธิผล ดังข้อค้นพบกรณีศึกษามลพิษทางเสียงที่

กระทบต่อสิ่งมีชีวิตในท้องทะเลชายฝั่งทะเลตะวันตกของแคนาดา ที่ไม่เพียงเกิดปัญหาการเกิดมลพิษทางเสียง
เท่านั้น แต่ยังมีปัญหาในกระเด็นของการบังคับใช้กฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเกี่ยวข้องกับหน้าที่รับผิดชอบตาม
กฎหมายและความชอบธรรม อีกทั้ง ยังเชื่อมโยงกับโอกาสทางการค้าในการด าเนินกิจกรรมของ

ภาคอุตสาหกรรมทางทะเลซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลอันก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงตามมา (Ritts,
2017)

ข้อค้นพบประเด็นมลพิษในเชิงบทบาทภาคส่วนต่าง ๆ พบบทบาทของภาครัฐ พรรคการเมือง
ภาคธุรกิจ ประชาสังคม และประชาชนทั่วไปในประเด็นมลพิษ จากกงานวิจัยที่ส ารวจได้ แสดงให้เห็นว่าภาครัฐ
นั้นมีการตัดสินใจทางนโยบายที่โน้มเอียงไปในทางผู้บริโภคและภาคธุรกิจ ดังพบว่า ผูุุ้ออกกฎหมายให้น้ าหนัก

กับกลุ่มผู้บริโภคและกลุ่มผู้ผลิตส าหรับการตั้งค่ามาตรฐานซัลเฟอร์ไดออกไซด์ แต่ก็พบข้อมูลจ ากัดระหว่าง
ระดับรายได้กับการออกกฎหมายในแต่ละรัฐ (Davis, 2005) หรือที่พบว่าผูุ้ออกกฎหมายก าหนดค่ามาตรฐาน
น้ ามีอิทธิพลอย่างสัมพันธ์กันกับกลุ่มผู้บริโภคและกลุ่มผู้ผลิตในการตั้งค่ามาตรฐานมลพิษทางน้ า เพื่อตรวจสอบ
ปัจจัยทางธรรมชาติที่มีอิทธิพลต่อต้นทุนหากมีการควบคุมทางสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวด (Davis, 2007)

ในส่วนพรรคการเมือง มีตัวอย่างการศึกษาพรรคการเมืองที่ท าให้เห็นได้ว่า หากประเด็น

สิ่งแวดล้อมใดมีผลต่อคะแนนเสียง พรรคการเมืองก็มีแนวโน้มที่จะสนับสนุน ดังพบว่า ปัญหาสิ่งแวดล้อม
บางอย่างและการก าหนดนโยบายของพรรคโซเชียลเดโมแครตในออสเตรีย มีโอกาสที่จะเพิ่มส่วนแบ่งในการ
ลงคะแนนเสียง ทั้งนี้ ในฐานะพรรคเสรีภาพประชานิยมฝ่ายขวาอาจน าจุดยืนของตนที่มีความเข้มงวดใน
ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมมาใช้ในบริบทเฉพาะ ส าหรับกรณีของสารเคมีไกลโฟเซต พรรคได้ให้ค ามั่นว่า จะให้

ผลประโยชน์แก่กลุ่มต่าง ๆ ในประเทศ และยังบ่งชี้ถึงการประพฤติมิชอบของบริษัทต่างประเทศเกี่ยวกับการ

151