Page 94 - kpiebook65015

93

ก่อนหน้ารัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 จะเป็นอย่างไร ถ้าประเทศไทยใช้ระบบเลือกตั้ง
สัดส่วนผสม ทั้งนี้ จะไม่น�าผลการเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 มาใช้ เนื่องจากระบบ

เลือกตั้งจัดสรรปันส่วนผสมของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 มีคะแนนแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง
แต่เพียงอย่างเดียว ไม่มีคะแนนแบบบัญชีรายชื่อที่จะน�ามาค�านวณได้

ผลที่ได้เป็นไปตามที่แสดงในตารางที่ 11 ที่แสดงข้างล่างนี้ โดยในการเลือกตั้ง
ปี 2554 พรรคเพื่อไทยซึ่งได้คะแนนแบบสัดส่วน 48.42% จะได้ ส.ส. จ�านวน 48.42 %

ของ ส.ส. ทั้งหมดที่มี 500 คน ซึ่งเท่ากับ 242 คน เท่านั้น (ขณะที่การเลือกตั้งปี
พ.ศ. 2554 ในระบบคู่ขนาน พรรคเพื่อไทยได้ ส.ส. 265 คน) และเมื่อพรรคเพื่อไทย

ได้ ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้งไปแล้ว 205 คน พรรคเพื่อไทยจึงได้ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ
อีก 37 คน (ส.ส. ที่ได้ทั้งหมด 242 คน ลบด้วย ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง 205 คน

ผลลัพธ์คือ 37 คน) ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งปี พ.ศ. 2554 ได้คะแนน
แบบสัดส่วน 35.15 % พรรคประชาธิปัตย์จึงได้ ส.ส. จ�านวน 35.15 % ของจ�านวน ส.ส.

ทั้งหมดที่มี 500 คน ซึ่งเท่ากับ 176 คน (การเลือกตั้งปี พ.ศ. 2554 พรรคประชาธิปัตย์
ได้ ส.ส. ทั้งหมด 159 คนเท่านั้น) เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ได้ ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง

ไปแล้ว 114 คน แปลว่าพรรคประชาธิปัตย์จะได้ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่ออีก 62 คน
(จ�านวน ส.ส. ที่ได้ทั้งหมดคือ 176 คน ลบด้วย ส.ส. แบ่งเขต 114 คน ผลลัพธ์เท่ากับ

จ�านวน ส.ส. บัญชีรายชื่อคือ 62 คน) ซึ่งในการเลือกตั้งปี พ.ศ. 2550 และการเลือกตั้ง
ปี พ.ศ. 2548 ผลก็เหมือนกันคือในระบบสัดส่วนผสมนั้น พรรคใหญ่ที่สุดจะได้ ส.ส.

น้อยลง ส่วนพรรคอันดับสองรองลงมาจะได้ ส.ส. มากขึ้น ซึ่งเป็นการได้มากขึ้นหรือ
น้อยลงตามคะแนนเสียงจริงที่ได้จากประชาชน จึงเป็นระบบเลือกตั้งที่เป็นธรรม

ไม่มีพรรคใดได้ ส.ส.มากเกินไป หรือพรรคใดได้ ส.ส.น้อยเกินไป ดังระบบเลือกตั้งแบบ
คู่ขนาน (พรรคใหญ่ที่สุดได้ ส.ส.มากกว่าคะแนนเสียง) และระบบจัดสรรปันส่วนผสม

(พรรคใหญ่ที่สุดได้ ส.ส.น้อยกว่าคะแนนเสียง)