Page 6 - kpiebook64015
P. 6

จำนวนสมาชิกซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคการเมือง (2) จำนวนคะแนนเสียงจากบัญชี

              รายชื่อของพรรคการเมืองที่พรรคการเมืองได้รับในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งล่าสุด (3) จำนวนสมาชิกของพรรคการเมือง
              และ (4) จำนวนสาขาพรรคการเมือง ตามลำดับ

                     ดังนั้น การวางหลักเกณฑ์และวิธีการในการจัดสรรเงินแก่พรรคการเมืองครั้งแรกจึงถูกกำหนดไว้ในประกาศ

              คณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง กองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง ลงวันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2541 ข้อ 18
              ซึ่งกำหนดรายละเอียดของหลักเกณฑ์ในการจัดสรรเงินสนับสนุนพรรคการเมือง  ดังนี้

                     (1)    จัดสรรตามจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคการเมืองเท่าที่ทีอยู่

                     (2)    จัดสรรตามจำนวนคะแนนเสียงจากบัญชีรายชื่อของพรรคการเมือง ที่พรรคการเมืองได้รับในการ
              เลือกตั้งทั่วไปครั้งล่าสุด

                     (3)    จัดสรรตามจำนวนสมาชิกของพรรคการเมือง โดยให้ถือตามจำนวนสมาชิกพรรคการเมืองที่แจ้งต่อ
              นายทะเบียนตามมาตรา 29 หรือ มาตรา 39 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.

              2541 แล้วแต่กรณี

                     (4)    จัดสรรตามจำนวนสาขาพรรคการเมือง โดยให้ถือตามจำนวนสาขาพรรคการเมืองที่นายทะเบียน
              ตอบรับการจัดตั้งแล้ว ในวันที่ยื่นโครงการและแผนงานเสนอขอรับการจัดสรรเงินสนับสนุน

              ทั้งนี้ การจัดสรรเงินสนับสนุนตามหลักเกณฑ์ดังกล่าว ให้จัดสรรในสัดส่วนที่เท่ากัน (ร้อยละ 25) ก่อนที่ในเวลาต่อมา
              จะได้มีการแก้ไขหลักเกณฑ์การจัดสรรนี้ในประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง กองทุนเพื่อการพัฒนาพรรค

              การเมือง แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 3 ลงวันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2543  โดยใช้หลักเกณฑ์ในการจัดสรรเงินสนับสนุน

              พรรคการเมืองดังต่อไปนี้แทน
                     (1)    จัดสรรตามจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคการเมืองเท่าที่ทีอยู่ ร้อยละ 35

                     (2)    จัดสรรตามจำนวนคะแนนเสียงจากบัญชีรายชื่อของพรรคการเมือง ที่พรรคการเมืองได้รับในการ

              เลือกตั้งทั่วไปครั้งล่าสุด ร้อยละ 30
                     (3)    จัดสรรตามจำนวนสมาชิกของพรรคการเมือง ร้อยละ 20 โดยให้ถือตามจำนวนสมาชิกพรรค

              การเมือง ซึ่งพรรคการเมืองตรวจสอบและรับรองความถูกต้องแล้ว ที่แจ้งต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง ในวันที่ยื่น

              โครงการและแผนงานเสนอขอรับการจัดสรรเงินสนับสนุน
                     (4)    จัดสรรตามจำนวนสาขาพรรคการเมือง ร้อยละ 15 โดยให้ถือตามจำนวนสาขาพรรคการเมืองที่

              นายทะเบียนตอบรับการจัดตั้งแล้ว ในวันที่ยื่นโครงการและแผนงานเสนอขอรับการจัดสรรเงินสนับสนุน กรณีที่
              พรรคการเมืองใดมีสาขาพรรคการเมืองในเขตเลือกตั้งใดเขตเลือกตั้งหนึ่งมากกว่าหนึ่งสาขา ให้นำจำนวนสาขาพรรค

              การเมืองของแต่ละพรรคการเมืองในเขตเลือกตั้งนั้นมาคำนวณเพียงสาขาเดียว
                     จากบทบัญญัติในเรื่องหลักเกณฑ์การจัดสรรเงินแก่พรรคการเมืองดังกล่าวและการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนที่

              เกิดขึ้น แสดงให้เห็นว่า การใช้จำนวนสมาชิกพรรคการเมือง เป็นเกณฑ์ในการจัดสรรเงินสนับสนุนพรรคการเมืองได้

              ก่อให้เกิดปัญหาในทางปฏิบัติตามมา กล่าวคือ ทำให้พรรคการเมืองดำเนินการทุกวิถีทางในการเพิ่มจำนวนสมาชิก








                                                             6
   1   2   3   4   5   6   7   8   9   10   11