Page 216 - kpiebook64013
P. 216
ออกไปได้มากถึง 2 ปี จนมาถึงการออกพระราชบัญญัติรัฐสภาปี ค.ศ. 1999
เพื่อจำากัดจำานวนขุนนางประเภทขุนนางสืบตระกูลเหลือเพียง 92 คน
เนื่องจากสภาขุนนางมีความเป็นอนุรักษ์นิยมมากพอสมควร โดยให้มี
การสรรหากันเองภายในสมาชิกตระกูลขุนนางเหล่านั้น และขุนนางกลุ่มนี้
ไม่มีสิทธิ์สืบทอดตำาแหน่งจากรุ่นสู่รุ่นอีกต่อไป ไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมประชุม
สภาหรือออกเสียงลงคะแนนแต่อย่างใด
อดีตสภาขุนนางเปรียบเสมือนศาลสูงสุดของประเทศอังกฤษ
เพราะมีอำานาจในการพิจารณาฎีกาขั้นตอนสุดท้าย ในกรณีที่เป็นคดีทาง
อาญาหรือแพ่งและพาณิชย์ที่มีความสำาคัญต่อสาธารณชน แต่ช่วงหลัง
การปฏิรูปรัฐธรรมนูญ ค.ศ. 2005 อำานาจนี้จึงถูกโอนให้ศาลฎีกาสูงสุด
แห่งสหราชอาณาจักรที่ถูกจัดตั้งขึ้นมาใหม่ ดังนั้น การปฏิรูปรัฐธรรมนูญ
และการออกพระราชบัญญัติรัฐสภาฉบับต่างๆ เหล่านี้ที่ถูกผลักดัน
โดยสภาสามัญนั้นจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า มีความพยายามจำากัดและ
ลดอำานาจของสภาขุนนางลง ดังนั้น รัฐธรรมนูญจึงมีการบัญญัติโดยให้
วุฒิสภามีหน้าที่ในการตรวจสอบและถ่วงดุลรัฐบาล ซึ่งเป็นบทบาทและ
อำานาจหน้าที่ของสภาขุนนางหรือวุฒิสภาอังกฤษในการพัฒนาระบอบ
ประชาธิปไตยในการถ่วงดุลอำานาจรัฐที่สูงเกินจากประชาชน
2) บทบาทและอ�านาจหน้าที่ของสมาชิกวุฒิสภา
ประเทศญี่ปุ่นต่อการพัฒนาระบอบประชาธิปไตย
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรญี่ปุ่น ค.ศ. 1946 ได้สถาปนา
ระบบรัฐสภา และจัดให้มีรัฐสภาแบบสองสภาขึ้น โดยกำาหนดให้
“สภาไดเอท” เป็นองค์กรสูงสุดแห่งอำานาจรัฐในทางนิติบัญญัติ
216 บทบาทอำานาจหน้าที่ของวุฒิสภาในระบบสภาคู่กับประสิทธิผลในการเสริมสร้างเสถียรภาพทางการเมืองและการพัฒนาประชาธิปไตยไทย