Page 176 - kpiebook64011
P. 176
5.2.1 วิธีการหาเสียงที่นิยมและไม่นิยม การใช้สื่อสังคมออนไลน์ และการใช้นวัตกรรมใหม่ ๆ ใน
การหาเสียงเลือกตั้ง
ข้อมูลจากการส ารวจความคิดเห็นของผู้มีสิทธิเลือกตั้งในพื้นที่จ านวน 96 ตัวอย่าง สามารถแยก
ออกเป็น 2 ประเด็นย่อยคือ รูปแบบการหาเสียงที่ท าให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งทราบข้อมูลเกี่ยวกับตัวผู้สมัครได้มาก
ที่สุดและรูปแบบการหาเสียงที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในพื้นที่ชื่นชอบมากที่สุด ในประเด็นแรก รูปแบบการหาเสียงที่
ท าให้กลุ่มตัวอย่างสามารถเข้าถึงและทราบข้อมูลของผู้สมัครมากที่สุดอันดับแรกคือ ป้ายหาเสียง โดยกลุ่ม
ตัวอย่างจ านวน 48 คน ลงความเห็นว่า ป้ายหาเสียงคือช่องทางอันดับแรกที่พวกเขาได้ข้อมูลของผู้สมัคร
รองลงมาคือ รถแห่ การเดินรณรงค์พบปะประชาชน การประชาสัมพันธ์ของหัวคะแนน การใช้สื่อออนไลน์
และการตั้งเวทีปราศรัย ซึ่งกลุ่มตัวอย่างลงความเห็นให้เป็นอันดับ 2-6 ตามล าดับ (พิจารณาตาราง 5.3)
ตาราง 5.3 รูปแบบการหาเสียงที่ท าให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในพื้นที่ทราบข้อมูลของผู้สมัครรับเลือกตั้ง
อันดับ รูปแบบการหาเสียง ความถี่ของกลุ่มตัวอย่างที่เลือก (จาก 96 ตัวอย่าง)
1 ป้ายหาเสียงตามที่ต่าง ๆ 48
2 รถแห่ 28
3 การเดินรณรงค์พบปะประชาชน 26
4 การประชาสัมพันธ์ของหัวคะแนน 32
5 สื่อออนไลน์ 24
6 ตั้งเวทีปราศรัย 40
ที่มา : ประมวลผลโดยคณะผู้วิจัย
จากข้อมูลสะท้อนให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างได้รับข้อมูลของตัวผู้สมัครจากป้ายหาเสียงมากที่สุด
รองลงมาคือ ข้อมูลจากรถแห่ และการพบปะประชาชนตามพื้นที่สาธารณะต่าง ๆ ในขณะที่สื่อออนไลน์และ
เวทีปราศรัยหาเสียง กลับเป็นรูปแบบการหาเสียงที่ส่งข้อมูลของผู้สมัครไปยังกลุ่มตัวอย่างได้ไม่มากนัก อย่างไร
ก็ตามควรส ารวจต่อไปอีกว่า รูปแบบการหาเสียงแบบใดที่กลุ่มตัวอย่างชื่นชอบ ผลจากการส ารวจพบความ
แตกต่างจากข้อมูลชุดแรกในบางระดับกล่าวคือ กลุ่มตัวอย่างจ านวน 35 คน ลงความเห็นว่า พวกเขาชื่อชอบ
การเดินรณรงค์พบปะประชาชนตามพื้นที่สาธารณะมาเป็นอันดับ 1 ในขณะที่ป้ายหาเสียง การประชาสัมพันธ์
ของหัวคะแนน รถแห่ สื่อออนไลน์ และเวทีปราศรัยหาเสียง ถูกจัดอันดับจากกลุ่มตัวอย่างให้เป็นรูปแบบการ
หาเสียงที่พวกเขาชื่นชอบอันดับที่ 2-6 (พิจารณาตาราง 5.4)
ความแตกต่างประการส าคัญคือ แม้กลุ่มตัวอย่างจะได้ข้อมูลของผู้สมัครจากป้ายหาเสียงมากที่สุด แต่
พวกเขากลับไม่ได้ชื่นชอบวิธีการนี้เป็นอันดับ 1 กลุ่มตัวอย่างยังต้องการให้ผู้สมัครลงพื้นที่เพื่อมาพบปะ พูดคุย
รับฟัง และเปลี่ยนความคิดเห็นกับพวกเขาอยู่ ส าหรับรถแห่ แม้จะเป็นรูปแบบการหาเสียงที่สามารถกระจาย
ข้อมูลของผู้สมัครให้กลุ่มตัวอย่างได้มากเป็นอันดับ 2 แต่กลุ่มตัวอย่างกลับชื่นชอบวิธีการนี้เป็นอันดับ 4 การหา
เสียงผ่านหัวคะแนนเป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่กลุ่มตัวอย่างชื่นชอบเป็นอันดับ 3 แม้ว่ากลุ่มตัวอย่างจะได้ข้อมูลของ
ผู้สมัครจากหัวคะแนนไม่มากเท่ากับป้ายหาเสียงและรถแห่ ความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่างที่สอดคล้องกันเห็น
จะได้แก่ การมีข้อสรุปว่า สื่อออนไลน์และเวทีปราศรัยหาเสียงเป็นรูปแบบการหาเสียงซึ่งไม่เป็นที่นิยมนักและ
กระจายข้อมูลของผู้สมัครได้น้อย
โครงการศึกษาการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น ปี 2563: การเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ 158