Page 11 - kpiebook63023
P. 11

11








                  ราชการเสียมากกว่า ในทางกลับกัน การกระจายอำานาจที่หมายถึงการแบ่งอำานาจยังอาจเป็นเครื่องมือหรือ

                  กลไกที่สำาคัญที่ช่วยให้รัฐสามารถกระชับหรือรวมศูนย์อำานาจได้มากยิ่งขึ้น ช่วยให้รัฐสามารถดำาเนินการตาม
                  นโยบายที่รัฐกำาหนดไว้ได้อย่างมีประสิทธิผล เพราะฉะนั้น การกระจายอำานาจในรูปแบบนี้จึงอาจมิได้มีลักษณะ

                  ที่หนุนเสริมต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย แต่กลับมีส่วนช่วยในการหนุนเสริมความเข้มแข็ง
                  ของภาครัฐหรือกลไกราชการให้สามารถที่จะขับเคลื่อนและผลักดันนโยบายได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

                  มากยิ่งขึ้นเสียมากกว่า เช่น ในอดีตรัฐบาลชุดหนึ่งของไทยเคยมีนโยบายที่จะปราบปรามผู้มีอิทธิพล รวมทั้ง
                  ผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด การขับเคลื่อนนโยบายข้างต้น รัฐบาลก็อาศัยโครงสร้างของจังหวัดและอำาเภอ

                  โดยกำาหนดให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำาเภอเป็นผู้รับผิดชอบและดำาเนินนโยบายดังกล่าว เป็นต้น








                                      การกระจายอ�านาจที่หมายถึงการแบ่งอ�านาจ

                                         ยังอาจเป็นเครื่องมือหรือกลไกที่ส�าคัญ
                              ที่ช่วยให้รัฐสามารถกระชับหรือรวมศูนย์อ�านาจได้มากยิ่งขึ้น

                    ช่วยให้รัฐสามารถด�าเนินการตามนโยบายที่รัฐก�าหนดไว้ได้อย่างมีประสิทธิผล










                          สำาหรับการกระจายอำานาจในรูปแบบที่สอง ซึ่งมีความแตกต่างไปจากการกระจายอำานาจในรูปแบบแรก
                  และเป็นที่ยอมรับว่าเป็นการกระจายอำานาจที่มีส่วนในการหนุนเสริมต่อการจัดการปกครองในระบอบประชาธิปไตย

                  ก็คือ การนิยามว่าการกระจายอำานาจ หมายถึง การที่รัฐหรือผู้มีอำานาจในการปกครอง “ถ่ายโอนอำานาจ
                  (Devolve)” บางส่วนในการจัดบริการสาธารณะ ซึ่งอาจจะมากหรือน้อยก็สุดแท้แต่ ไปให้กับประชาชนที่

                  อาศัยอยู่ในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนเหล่านั้นได้คิดหรือตัดสินใจเอาเองว่าพวกเขาจะจัดบริการสาธารณะ
                  เหล่านั้นอย่างไร เพื่อให้พวกเขาได้ประโยชน์จากบริการสาธารณะนั้นๆ และเป็นบริการสาธารณะที่ตรงกับความ

                  ต้องการของพวกเขามากที่สุด นักวิชาการบางท่านอาจอธิบายว่าการกระจายอำานาจในรูปแบบนี้มีลักษณะเป็น
                  “การกระจายอำานาจในทางการเมือง (Political Decentralization)” เพราะรัฐได้ถ่ายโอนอำานาจในการคิด

                  หรือตัดสินใจไปให้กับประชาชน และเนื่องด้วยว่าประชาชนทั้งหมดทุกคนย่อมไม่สามารถที่จะเข้าไปมีบทบาท
                  ในการคิดหรือตัดสินใจได้โดยตรง เช่น พวกเขาอาจไม่มีเวลามากพอเพราะต้องประกอบอาชีพประจำา หรือเขา

                  อาจไม่ได้มีความรู้หรือความสนใจในประเด็นด้านการบริหารจัดการมากนัก พวกเขาจึงมักมีการเลือกตัวแทน
                  ของประชาชนเพื่อทำาหน้าที่เหล่านั้นแทนตน (Manor 1999 ; Cheema and Rondinelli 2007) รวมทั้ง

                  ยังอาจจำาเป็นต้องมีองค์กรหรือหน่วยงานที่จะมารับผิดชอบภารกิจในการจัดบริการสาธารณะที่รัฐถ่ายโอนมาให้
                  ซึ่งองค์กรที่ว่า ก็คือ “องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” ส่วนตัวแทนที่ประชาชนเป็นผู้เลือกมานั้น ก็จะมาทำาหน้าที่

                  เป็นผู้บริหารขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือสมาชิกสภาท้องถิ่นนั่นเอง
   6   7   8   9   10   11   12   13   14   15   16