Page 22 - kpiebook63013
P. 22
22 การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดสุราษฎร์ธานี
1) กำรก�ำหนดเขตเลือกตั้ง
การกำาหนดเขตเลือกตั้ง หมายถึง การกำาหนดอาณาบริเวณของพื้นที่ที่ประชากรอาศัยอยู่และให้ประชากร
ในอาณาบริเวณดังกล่าวเลือกตั้งตัวแทนของพวกเขาได้ โดยทั่วไปแล้ว การกำาหนดเขตเลือกตั้งมักจะใช้การแบ่ง
ไปตามการแบ่งเขตการปกครองที่มีอยู่แล้ว เช่น อำาเภอ จังหวัด โดยพิจารณาจากจำานวนประชากรที่ใกล้เคียงกัน
ของแต่ละเขต หรืออาจจะแบ่งเขตโดยพิจารณาตามความเหมาะสมกับสภาพพื้นที่ (อย่างไรก็ตาม การแบ่ง
เขตเลือกตั้งใหม่อาจจะเป็นไปในลักษณะของยุทธศาสตร์ทางการเมืองเพื่อให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบ
ในการเลือกตั้ง ตัวอย่างเช่น การแบ่งเขตใหม่เพื่อลดทอนฐานเสียงเดิมของพรรคการเมืองบางพรรคโดย
การแยกพื้นที่ที่เคยเป็นฐานเสียงของพรรคนั้นออกจากกัน ไปอยู่กันคนละเขตเลือกตั้ง เป็นต้น) โดยทั่วไปแล้ว
รูปแบบการกำาหนดเขตเลือกตั้งจะมีอยู่อย่างน้อย 3 รูปแบบ ดังนี้
1.1) การแบ่งเขตเลือกตั้งเป็นเขตเล็ก การแบ่งในลักษณะนี้จะทำาให้ประชากรในเขตเลือกตั้งมีจำานวน
ไม่มากนัก ส่งผลให้ประชากรอาจจะรู้จักคุ้นเคยกันและมีปฏิสัมพันธ์ต่อกัน รวมไปถึงสามารถที่จะรู้จักผู้ลงสมัคร
ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ในพื้นที่นั้นได้ง่าย ตัวผู้ที่ลงสมัครเองก็จะมีความใกล้ชิดคุ้นเคยกับประชาชนในเขตเลือกตั้ง ระยะห่าง
ระหว่างตัวผู้สมัครกับประชาชนมีน้อย ประชาชนและผู้สมัครจึงสามารถสื่อสารกันได้ตลอดเวลา และด้วย
ความที่เป็นผู้ที่อยู่ในพื้นที่โดยตรง ประกอบกับเขตเลือกตั้งมีขนาดเล็ก ตัวผู้สมัครจึงสามารถรับรู้ปัญหาในพื้นที่ได้
เป็นอย่างดี จากที่กล่าวมาทั้งหมดข้างต้น การแบ่งเขตเลือกตั้งเป็นเขตเล็กจึงทำาให้ผู้สมัครที่ได้รับเลือกมีคุณลักษณะ
เป็นตัวแทนของประชาชนในเขตพื้นที่นั้นจริง ๆ สามารถรับรู้ปัญหาและสื่อสารกับประชาชนในพื้นที่ได้ ทว่าในอีก
ด้านหนึ่ง การแบ่งเป็นเขตเล็กอาจจะทำาให้เกิดการแข่งขันสูง โดยเฉพาะหากในเขตเลือกตั้งนั้นสามารถเลือก
ตัวแทนได้คนเดียว เมื่อการแข่งขันสูงการใช้อิทธิพลหรือผลประโยชน์ต่าง ๆ เพื่อจูงใจให้ประชาชนลงคะแนนให้ตน
ก็จะมีเพิ่มขึ้นเช่นกัน ประกอบกับเมื่อพื้นที่เล็กการควบคุมตรวจสอบของบรรดาหัวคะแนนก็จะทำาได้อย่าง
เข้มแข็ง การทุ่มเงินเพื่อซื้อเสียงหรือการให้ผลประโยชน์เกิดขึ้นได้ง่าย แต่อย่างไรก็ตาม หากว่าประชาชนตัดสินใจ
ลงคะแนนโดยพิจารณาจากผลงาน พฤติกรรม ของตัวผู้ลงสมัคร (ซึ่งพวกเขาสามารถรับรู้ได้ไม่ยากนัก) ก็อาจจะ
ทำาให้การซื้อเสียงไม่ประสบผลสำาเร็จ
1.2) การแบ่งเขตเลือกตั้งเป็นเขตใหญ่ การแบ่งในลักษณะนี้จะทำาให้ประชากรในเขตเลือกตั้งมีจำานวน
มาก มีความหลากหลาย จนทำาให้ยากที่ประชากรจะรู้จักมักคุ้นกันเองหรือใกล้ชิดกับตัวผู้สมัคร (ประชาชน
ในบางพื้นที่อาจจะไม่รู้จักและไม่สามารถรับรู้พฤติกรรมของตัวผู้สมัครด้วยซำ้า) ผู้สมัครเองก็ไม่มีความใกล้ชิด
คุ้นเคยกับประชาชนได้ทั้งหมด นอกจากนี้ เขตเลือกตั้งที่ใหญ่ย่อมทำาให้ปัญหาของประชาชนในพื้นที่นั้นมี
ความแตกต่างหลากหลายอย่างมาก การรับรู้ปัญหาทำาได้ค่อนข้างยาก การสื่อสารระหว่างผู้สมัครและประชาชน
ก็เป็นไปได้น้อยเพราะจำานวนประชากรมีเพิ่มมากขึ้น จนอาจจะทำาให้ผู้สมัครไม่สามารถเป็นตัวแทนของประชากร
กลุ่มใหญ่นั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ในอีกด้านหนึ่ง การที่แบ่งเป็นเขตใหญ่ กลับทำาให้การแข่งขันทางการเมือง
ไม่สูงมากนัก การใช้เงิน อิทธิพล หรือการให้ผลประโยชน์กับประชาชนเพื่อเป็นการจูงใจอาจทำาได้ยากขึ้นเพราะ
จำานวนประชากรมีเพิ่มมากขึ้น ระบบการควบคุมตรวจสอบของหัวคะแนนก็ทำาได้ยากด้วยเช่นกัน