Page 121 - kpiebook63013
P. 121
121
ขึ้นลงตลอดเวลา” “มีเรื่องบัตรเขย่ง” “เห็นข่าวหลังเลือกตั้ง ไม่เชื่อมั่น” “ไม่เชื่อมั่น เพราะมีการเคลื่อนไหว
ตลอดเวลาและภาพรวมหลังการเลือกตั้งก็เป็นไปในทางลบ ไม่มีความน่าเชื่อถือ” “ไม่ เพราะ 1 ใน 50 คน
เลือกพรรคที่ได้คะแนนสูงสุด แล้วคะแนนที่มีมากมายนั้นมาจากที่ไหน” ซึ่งสะท้อนว่าประชาชนเชื่อมั่นใน
การทำางานของคณะกรรมการเลือกตั้งในระดับท้องถิ่น แต่ไม่เชื่อมั่นในผลคะแนนที่ประกาศโดยคณะกรรมการ
การเลือกตั้งกลาง
อย่างไรก็ตาม แม้ทุกคนจะไม่เชื่อมั่นในการนับคะแนน แต่ผู้ให้สัมภาษณ์ทุกคนกลับแสดงทัศนะว่า
ผู้สมัครและพรรคที่แพ้ควรยอมรับผลการเลือกตั้งโดยไม่ต่อต้าน ซึ่งอาจมองได้ว่าประชาชนไม่ต้องการให้เกิด
ความวุ่นวายในทางการเมืองและต้องการให้ทุกอย่างจบลงโดยการที่ทุกฝ่ายยอมรับในผลการตัดสิน ทั้งนี้เพราะ
ประชาชนคิดว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มีแนวโน้มสูงที่อาจจะไม่สามารถยุติความขัดแย้งทางการเมืองได้ ผู้ให้สัมภาษณ์
ทั้งหมดแสดงความเห็นตรงกันว่า “เลือกตั้งไปแล้ว ความขัดแย้งก็ยังอยู่ และจะเพิ่มขึ้นอีก” (สอดคล้องกับทัศนะ
ก่อนการเลือกตั้งที่สะท้อนว่าประชาชนยังไม่มีความเชื่อมั่นว่าพรรคการเมืองจะสามารถทำางานในระบบรัฐสภา
ได้อย่างราบรื่นมีประสิทธิภาพ) ดังนั้น ถ้าปล่อยให้แต่ละฝ่ายสามารถคัดค้านหรือทำาตามใจตนเองได้ก็อาจกระทบ
กับการทำางานของรัฐบาลและกลับมาวุ่นวายเหมือนก่อน
สำาหรับผลการเลือกตั้งในจังหวัดสุราษฎร์ธานีที่พรรคประชาธิปัตย์สามารถกุมชัยชนะได้ในทุกเขต
เลือกตั้ง และที่สำาคัญคือสามารถชนะพรรครวมพลังประชาชาติไทยที่มี คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นแกนนำา
ผู้ให้สัมภาษณ์ให้เหตุผลที่ต่างกันออกไป เช่น “เพราะพรรคประชาธิปัตย์น่าเชื่อถือ” “คนใต้ชอบพรรคเก่าแก่”
“คนใต้เป็นสมาชิกมายาวนาน” “ชื่นชอบคุณชวน” “ชอบคุณอภิสิทธิ์” แต่สำาหรับในภาพรวมของทั้งประเทศ
พรรคประชาธิปัตย์ได้จำานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรน้อยลง ผู้ให้สัมภาษณ์แสดงความเห็นว่าเป็นเพราะ
“คนอยากลองอะไรใหม่ ๆ” “เบื่อการเมืองเดิม ๆ” “มีพรรคเพิ่มมากขึ้น” “เบื่อคำาพูด” ส่วนนโยบายที่
ประชาชนต้องการจากรัฐบาลมากที่สุดคือค่าจ้างและราคาผลิตผลการเกษตร โดยเฉพาะราคายางพาราและราคา
ปาล์มนำ้ามัน
เขตเลือกตั้งที่ 6
1 ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง
ผู้ให้สัมภาษณ์ในเขตเลือกตั้งที่ 6 ทุกคนแสดงทัศนะว่า หากมีผู้สมัครจ่ายเงินเพื่อจูงใจให้ไป
ลงคะแนนเสียงนั้นจะไม่มีผลต่อการตัดสินใจของตนและจะไม่เลือกผู้สมัครคนนั้น ผู้ให้สัมภาษณ์ส่วนใหญ่
ให้เหตุผลว่าเนื่องจากตนเองมีพรรคการเมืองและผู้สมัครที่ชอบอยู่แล้ว “ไม่รับเงิน เลือกพรรคที่ไว้ใจ เลือกพรรค
ที่ชอบ” ขณะที่บางคนให้เหตุผลว่า “ไม่รับ เพราะไม่ใช่สิ่งที่ดีที่ประชาชนควรทำา” “ไม่เพราะตัวเองเป็นข้าราชการ
ต้องเป็นต้นแบบในการกระทำาเรื่องที่ถูกต้อง” “ไม่รับ ผิดกฎหมาย ทุจริต” “ไม่รับ การเริ่มต้นโดยการทุจริต
มีการถอนทุนคืนแน่นอนในอนาคต” จากคำาตอบแสดงให้เห็นว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งต้องการระบบการเมืองที่